รูปร่างทรงไหนใส่ใจสุขภาพที่สุด เกร็ดความรู้เกี่ยวกับรูปร่าง

รูปร่างทรงไหนใส่ใจสุขภาพที่สุด

🥤กลางวันทานข้าวเสร็จ ต้องตบของหวานเป็นชานมไข่มุก
🥤วันนี้ทำงานเหนื่อยย เหนื่อย ขอจัดบุพเฟ่หมูกระทะหน่อยแล้วกัน
🥤หิวจนนอนไม่หลับ โซ้ยมาม่าสักถ้วยตอนเที่ยงคืนคงไม่เป็นไรมั้ง

หนุ่มสาวคนไหนมีพฤติกรรมแบบนี้บ้าง⁉️

การกระทำเหล่านี้อาจส่งผลให้รูปร่างพัง! และค่า BMI สูง! จนทำให้เกินโรคต่างๆตามมาได้😱

💡วันนี้ป้าเจนมีเกร็ดความรู้เกี่ยวกับรูปร่าง และวิธีคิดค่า BMI มาฝาก เพื่อสุขภาพของชาวเพจจินเจนที่ดียิ่งขึ้น

ค่า BMI หรือ Body Mass Index คือ ค่าดัชนีที่ใช้ชี้วัดความสมดุลของน้ำหนักตัว และส่วนสูง ซึ่งสามารถระบุได้เลยว่า รูปร่างของคุณอยู่ในระดับใด ตั้งแต่อ้วนมาก ไปจนถึงผอมเกินไป

👍วิธีการคำนวณก็ง่ายทำตามภาพได้เลยจ้าา

การวัดค่า BMI ยังบ่งบอกอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ตรวจสอบภาวะไขมันและความอ้วน ดังนั้นการทำให้ร่างกายอยู่ในเกณฑ์ปกติ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งกับผู้ที่ต้องการรักษาสุขภาพในระยะยาว

ค่า BMI ของคุณอยู่ในระดับใด? เช็กเลย!

🚴🏻‍♀️อ้วนมาก ( 30.0 ขึ้นไป )
ค่อนข้างอันตราย เพราะเข้าเกณฑ์อ้วนมาก เสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายแรงที่แฝงมากับความอ้วน หากค่า BMI อยู่ในเลขนี้ จะต้องระวังการรับประทานไขมัน และควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และหากเลขยิ่งห่างจาก 40.0 มาก ยิ่งแสดงถึงความอ้วนที่มากขึ้น

🚴🏻‍♀️อ้วน ( 25.0 – 29.9 )
คุณอ้วนในระดับหนึ่ง ถึงแม้จะไม่ถึงเกณฑ์ที่ถือว่าอ้วนมากๆ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคที่มากับความอ้วนได้เช่นกัน ทั้งโรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูง

🚴🏻‍♀️น้ำหนักเกิน ( 23.0 – 24.9 )
พยายามอีกนิด เพื่อลดน้ำหนักให้เข้าสู่ค่ามาตรฐาน เพราะค่า BMI ในช่วงนี้ยังถือว่าเป็นกลุ่มผู้ที่มีความอ้วนอยู่บ้าง แม้จะไม่ถือว่าอ้วน แต่หากประวัติคนในครอบครัวเคยเป็นโรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูง ก็ถือว่ายังมีความเสี่ยงมากกว่าคนปกติ

🚴🏻‍♀️น้ำหนักปกติ เหมาะสม ( 18.6 – 22.9 )
น้ำหนักที่เหมาะสมสำหรับคนไทย คือค่า BMI ระหว่าง 18.5-24.9 อยู่ในเกณฑ์ปกติ ห่างไกลโรคที่เกิดจากความอ้วน และมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆน้อยที่สุด ควรพยายามรักษาระดับค่า BMI ให้อยู่ในระดับนี้ให้นานที่สุด

🚴🏻‍♀️ผอมเกินไป ( น้อยกว่า 18.5 )
น้ำหนักน้อยกว่าปกติก็ไม่ค่อยดี หากคุณสูงมากแต่น้ำหนักน้อยเกินไป อาจเสี่ยงต่อการได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ หรือได้รับพลังงานไม่เพียงพอ ส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลียง่าย การรับประทานอาหารให้เพียงพอ และการออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อสามารถช่วยเพิ่มค่า BMI ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติได้

ค่า BMI จากโปรแกรมคำนวณนี้ เป็นค่าสำหรับชาวเอเชียและคนไทย ซึ่งอาจแตกต่างกันไปในแต่ละเชื้อชาติ ค่า BMI เฉลี่ยของหญิงไทยคือ 24.4 และของชายไทยคือ 23.1

บ่งชี้โรคด้วยค่า BMI

1. โรคอ้วน ภาวะที่ร่างกายสะสมไขมันมากเกินไป ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ บางคนกล่าวว่าภาวะน้ำหนักเกิน มีความรุนแรงน้อยกว่า แต่ในทางการแพทย์ทั้งสองสภาวะถือว่ามีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคด้วยกันทั้งคู่ ซึ่งนอกจากเราจะดูว่าร่างกายของเรานั้นก้าวเขาสู่ภาวะ “อ้วน” จากการสังเกตเสื้อผ้าที่เราสวมใส่ได้แล้ว BMI ก็เป็นอีกตัวบ่งชี้หนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน จัดเป็นเครื่องมือวัดปริมาณไขมันในร่างกายชิ้นหนึ่งที่น่าเชื่อถือทีเดียวล่ะ

2. โรคหัวใจและหลอดเลือด สืบเนื่องจากการเป็นโรคอ้วน ภาวะน้ำหนักตัวเกินหรือโรคอ้วนล้วนเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดทั้งสิ้น เนื่องจากไขมันที่สะสมในร่างกายในปริมาณที่มากเกินไปนั้นอุดตันในเส้นเลือด
หรือหากจะกล่าวให้เห็นภาพก็คือไขมันที่สะสมนั้นไปเกาะอยู่บนผนังของหลอดเลือดนั่นเอง หลอดเลือดแดงจึงตีบและมีขนาดแคบลง ส่งผลให้เลือดแดงเดินทางผ่านได้น้อยจนเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด และกล้ามเนื้อหัวใจอาจตายได้ในที่สุด

3. โรคเบาหวาน ระดับไขมันเลือดที่สูงนั้น จะทำให้ผนังหลอดเลือดหนาขึ้น หลอดเลือดแดงตีบแคบลงและเลือดไหลเวียนน้อยลงไปด้วย มีลักษณะคล้ายคลึงกันกับโรคหัวใจและหลอดเลือดนั่นเอง

4. โรคกระดูกพรุน BMI อาจไม่ได้บ่งชัดถึงโรคกระดูกพรุนโดยตรง แต่น้ำหนักและส่วนสูงของคุณสามารถบอกถึงความเสี่ยงได้ กล่าวคือคุณอาจมีน้ำหนักตัวมากเกินจนทำให้กระดูกหักในอนาคตได้

ข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของโรคเท่านั้น และค่า BMI นี้ก็เป็นเพียงเครื่องมือวัดแบบคร่าว ๆ เบื้องต้นเช่นกัน เพราะบางคนมีค่า BMI อยู่ในเกณฑ์ตามปกติ แต่เขาคนนั้นอาจมีปริมาณไขมันสะสมซึ่งนำไปสู่แนวโน้มโรคอ้วนก็เป็นได้เหมือนกัน ดังนั้น การวัดค่าแบบ BMI อาจไม่สามารถวินิจฉัยโรคของคนไข้ได้เพียงอย่างเดียว เราอาจต้องดูปัจจัยเรื่องอายุ เพศ เชื้อชาติ และพันธุกรรมควบคู่ไปพร้อมๆ กับการปรึกษาแพทย์ด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้น อย่าลืมว่า BMI เป็นค่าวัดที่ช่วยบ่งชี้ว่าร่างกายและน้ำหนักของคุณอยู่ในเกณฑ์ไหน

สิ่งสำคัญคือ เมื่อคุณรู้ว่าตนอยู่ในเกณฑ์ใดแล้วคุณควรเรียนรู้ที่จะควบคุมวินัยการรับประทานอาหารและพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคุณ ลองหันมารักษาสุขภาพด้วยการออกกำลังกายสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ควบคุมปริมาณอาหารอย่างเหมาะสม จำกัดอาหารหวานและปริมาณแป้งที่บริโภคเข้าไป และจงอย่าหลงผิดหาทางลัดในการลดน้ำหนักโดยใช้สารเคมี หรือกินยา เนื่องจากอาจส่งผลเสียในระยะยาวได้

สามารถหาซื้อน้ำขิงจินเจนได้แล้วที่ www.Gingen.com


#จินเจน #Gingen #ดื่มน้ำขิงดื่มจินเจน #ขิงผงสำเร็จรูปจินเจน #ดื่มดีมีประโยชน์ปรุงอาหารก็อร่อย

#ขิงผง100% #ขิงผงไม่มีน้ำตาล #ขิงผสมมน้ำตาล #ขิงยอดนิยม #ขิงเข้มข้น #ขิงเพิ่มน้ำนม #ขิงสำหรับคุณแม่

#ประโยชน์ของขิง #สมุนไพรขิง #ขิงยาอายุวัฒนะ #ขิงทำอาหาร

#ขิงช่วยเผาผลาญ #ขิงลดความอ้วน#ขิงแก้เมารถ #ขิงแก้เมาเรือ #ป้าเจน

แจกสูตร! 10 เมนูขิง “อร่อย” แถม “สุขภาพดี”

#แจกสูตรอาหาร #10เมนูขิง จ้าาา ^^

“ขิง” เพื่อนคู่ครัวไทยมาอย่างยาวนาน เพราะนอกจากจะให้รสเผ็ด กลมกล่อมแล้ว ขิงยังมีประโยชน์ในด้านสุขภาพอีกมากมาย อาทิ ช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย และช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆได้ แถมในขิงยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันโรคต่างๆได้มากมายอีกด้วย

วันนี้มาดูกันว่า 10เมนูขิงแสนอร่อย พร้อมสูตรการทำมีอะไรกันบ้าง ไปติดตามกันเลยค่ะ…

1. บัวลอยงาดำน้ำขิง

เบื่อกินน้ำขิง ก็ลองมาทำบัวลอยงาดำกันดีกว่า ใครจะเพิ่มสีสันในตัวแป้งก็ได้นะคะ หรือเพิ่มออปชั่นอย่างแปะก๊วยหรือเม็ดบัวก็แจ่มเลยค่ะ

ส่วนผสม น้ำขิง

• น้ำ 1+1/2 ลิตร
• ขิงแก่ 4 แง่ง
• น้ำตาลทรายขาว 350 กรัม
• น้ำตาลทรายแดง 150 กรัม

ส่วนผสม บัวลอยงาดำ

• งาดำคั่วบดหยาบ 2 ถ้วยตวง
• น้ำตาลทราย 350 กรัม
• เนยขาว 100 กรัม
• แป้งข้าวเหนียว 200 กรัม
• น้ำ 3/4 ถ้วย

วิธีทำบัวลอยงาดำน้ำขิง

1. ทำน้ำขิง โดยต้มน้ำกับขิงจนเดือด และมีกลิ่นหอม ใส่น้ำตาลทรายขาวและน้ำตาลทรายแดง คนผสมจนละลาย และเดือดทั่ว เตรียมไว้
2. ทำไส้งาดำ โดยผสมงาดำกับน้ำตาลทราย และเนย คนผสมให้เข้ากัน ปั้นเป็นก้อนกลม นำเข้าแช่เย็นจนแข็ง เตรียมไว้
3. ทำแป้งบัวลอย โดยนวดแป้งข้าวเหนียวกับน้ำจนเข้ากัน แบ่งแป้งเป็นก้อน ๆ ตามจำนวนไส้ที่เตรียมไว้ ปั้นเป็นก้อนกลม แผ่เป็นแผ่นบาง วางไส้งาดำลงไป ห่อแป้งคลุมให้มิด ปั้นเป็นก้อนกลมจนครบ นำเข้าแช่เย็นอีกครั้งจนแข็ง
4. ต้มน้ำในหม้อจนเดือด นำแป้งบัวลอยลงต้มจนสุก และลอยขึ้น ตักใส่ถ้วย ตักน้ำขิงที่ต้มเตรียมไว้ใส่ลงไป เสิร์ฟขณะร้อน ๆ

Cr: kapook.com

2. แซลมอนซอสขิง

เมนูแสนอร่อยที่ดัดแปลงปลาแซลมอนย่างรสชาติจืดชืด ลองเปลี่ยนแนวมากินแซลมอนซอสขิงรสเผ็ดร้อนสักมื้อกันดีไหม จับแซลมอนไปย่างจนสุก ราดน้ำซอสขิงรสเผ็ด กินกับผักต้ม

ส่วนผสม แซลมอนซอสขิง

• เนื้อปลาแซลมอน 200 กรัม
• แป้งสาลี 1 ช้อนโต๊ะ
• เกลือ 1/4 ช้อนชา
• พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา
• ขิงแก่หั่นเป็นเส้น 1 ช้อนโต๊ะ
• วิปปิ้งครีม 1 ช้อนโต๊ะ
• เกรวี่ หรือน้ำสต๊อกปลา 6 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันพืชสำหรับทอด 6 ช้อนโต๊ะ
• ไวน์ขาว 2 ช้อนโต๊ะ
• ผักต้ม ได้แก่ บล็อกโคลี แครอท มันฝรั่ง ข้าวโพด

วิธีทำแซลมอนซอสขิง

1. นำเนื้อปลาแซลมอนโรยเกลือกับพริกไทยป่น และคลุกแป้ง นำไปย่างจนสุก จัดใส่จาน พักไว้
2. ตั้งกระทะใช้ไฟแรง เติมไวน์ขาว จากนั้นลดไฟ เทน้ำเกรวี่ลงไป ตามด้วยขิง ปรุงรสด้วยเกลือกับพริกไทย ใส่วิปปิ้งครีม คนให้เข้ากัน
3. เสิร์ฟปลาแซลมอน ราดซอสขิง เคียงด้วยผักต้ม แต่งด้วยขิงแก่หั่นเป็นเส้น

Cr: kapook.com

3. หมูผัดพริกขิง

เมนูขิงอันดับต้น ๆ ที่หลายคนนึกถึงนั่นคือ หมูผัดพริกขิง อร๊อยอร่อย แถมจะเปลี่ยนจากเนื้อหมู เป็นไก่ ปลา ก็ยังอร่อยเหมือนเดิม

วัตถุดิบ
• เนื้อหมู หั่นเป็นชิ้น ๆ พอดีคำ
• พริกขี้หนูสด ผ่าครึ่ง
• หอมใหญ่ หั่นบาง
• ขิง หั่นเป็นชิ้นยาวเล็ก ๆ
• เครื่องปรุง มีน้ำตาลทราย น้ำปลา น้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ และผงปรุงรสนิดหน่อย
• น้ำมันพืช สำหรับผัด
• กระเทียมทุบและสับหยาบ

วิธีทำหมูผัดพริกขิง

1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชลงไป พอกระทะร้อน ใส่กระเทียมลงไปเจียวให้หอม
2. ใส่เนื้อหมูที่เตรียมไว้ลงไปผัดให้เข้ากันจนกระทั่งเนื้อหมูสุก
3. ปรุงรสด้วยเครื่องปรุงต่าง ๆ และผัดให้เข้ากัน
4. ใส่ขิง หอมหัวใหญ่ และพริกสด ตามลงไปผัดให้เข้ากันเพียง 1 นาที ตักใส่จาน เสิร์ฟกับข้าวสวยร้อน ๆ

เคล็ดลับ : สาเหตุที่ใส่ขิง หอมหัวใหญ่ และพริกสดทีหลังและใช้เวลาผัดแค่ 1 นาทีนั้นเพื่อไม่ให้ขิง หอมใหญ่ และพริกสดสุกเกินไป หมูผัดขิงที่ได้ก็จะดูดีและรสชาติอร่อยค่ะ

Cr. คุณน้องซาแมนต้า pantip.com

4. มันต้มขิง

ขนมอร่อย ที่หลายๆคนมักจะนึกไม่ถึง เมนูนี้เหมาะกับบ้านที่มีครัวเล็กๆแต่อยากลองทำขนมดูบ้าง ส่วนผสมมีน้อยมาก แค่มีมันเทศ น้ำตาล และขิง ต้มจนมันนิ่มตามชอบ ก็ได้ของหวานอร่อยๆแล้ว

ส่วนผสม มันต้มขิง

• มันเทศ 500 กรัม
• น้ำ 4-5 ถ้วย
• น้ำตาลกรวด 1 ถ้วย
• ขิงแก่ หั่นเป็นแว่น 5-10 ชิ้น หรือขิงผง 100%

วิธีทำมันต้มขิง

1. ปอกเปลือกมันเทศ ล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้น ๆ แช่น้ำ เตรียมไว้
2. ใส่น้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง ใส่น้ำตาลกรวด คนผสมจนน้ำตาลละลายหมด
3. พอน้ำเดือด ใส่มันเทศลงต้มจนเดือดอีกครั้ง จากนั้นใส่ขิงลงต้มจนมันเทศสุก ชิมรสตามชอบ ยกลงจากเตา ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ

Cr: kapook.com

5. เต้าฮวยน้ำขิง

หลังจากกินอาหารคาวแล้ว เรามาหาเมนูของหวานหม่ำกันบ้างดีกว่า เมนูยอดนิยมก็คือ…เต้าฮวยน้ำขิง สูตรนี้น้ำขิงเผ็ดร้อนแน่นอน กินกับเต้าฮวยนุ่มนิ่มทำเองได้

ส่วนผสม เต้าฮวย

• เต้าหู้นิ่ม 1 ถ้วย
• น้ำตาลทรายแดง 80 กรัม
• สารให้ความคงตัว (seg) 2 กรัม
• น้ำตาลเดกซ์โตรส 40 กรัม
• มอลโตเดกซ์ตริน 40 กรัม
• เกลือ 1 กรัม

ส่วนผสม น้ำขิง

• น้ำเปล่า 5 ถ้วย
• ขิงแก่เผาไฟ 3 – 4 ชิ้น
• น้ำตาลอ้อย 1 ถ้วย
• เกลือ 1/2 ช้อนชา

วิธีทำเต้าฮวยน้ำขิง

1. นำเต้าหู้นิ่ม น้ำตาลทรายแดง สารให้ความคงตัว (seg) เดกซ์โตรส มอลโตเดกซ์ตริน และเกลือใส่อ่างผสมใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากัน
2. เทน้ำร้อนลงไปคนให้เข้ากัน นำไปตั้งไฟอ่อน ๆ ให้พอควันขึ้นก็ยกลง เพื่อให้สารคงตัวละลาย
3. ต้มน้ำให้เดือด ใส่ขิงลงไป ตามด้วยน้ำตาลอ้อยแล้วปล่อยให้เดือดสัก 5 นาที ยกลง เตรียมไว้
4. ตักเต้าฮวยใส่ถ้วย เทน้ำขิงลงไปตามชอบ พร้อมเสิร์ฟ

เคล็ดลับ:ถ้าขี้เกียจต้มขิงสด ก็สามารถใช้น้ำขิงสำเร็จรูปแทนได้นะจ๊ะ นอกจากมีหลายรสชาติให้เลือกแล้ว ยังง่าย สะดวกอีกด้วย

Cr: kapook.com

6. ขิงดอง

ใครไม่ชอบฤทธิ์เผ็ดร้อนของขิงแก่ก็เปลี่ยนมาทำขิงอ่อนก็ได้ค่ะ ขอนำเสนอขิงดอง มาพร้อมวิธีทำให้ขิงเป็นสีชมพู ซอฟๆ กินเป็นเครื่องเคียงทุกมื้อเลยค่ะ

ส่วนผสม ขิงดอง

• ขิงอ่อน 1 กิโลกรัม
• น้ำเปล่าผสมเกลือ (สำหรับแช่ขิงและล้างความเผ็ดออกจากขิง)
• น้ำส้มสายชู 1 ถ้วย
• น้ำตาลทราย 400 กรัม (เพิ่ม-ลดได้ตามชอบ)
• เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
• มะนาว 1 ลูก

วิธีทำขิงดอง

1. ปอกเปลือกขิงออกแล้วซอยเป็นแว่นบาง ๆ นำไปแช่ในน้ำเกลือ พักทิ้งไว้ (เคล็ดลับคือ ถ้าเป็นขิงแก่ต้องคั้นและบีบกับน้ำเกลือหลาย ๆ ครั้งจนขิงหายเผ็ด)
2. เคี่ยวน้ำส้มสายชู น้ำตาลทราย เกลือ และน้ำเปล่าเข้าด้วยกันจนเดือดและน้ำตาลทรายละลาย ปิดไฟ พักทิ้งไว้จนอุ่น
3. บีบน้ำเกลือจากขิงออกให้หมดแล้วใส่ลงไปในส่วนผสมน้ำดองขิง คนให้เข้ากัน บีบน้ำมะนาวลงไป 1 ลูก (ขั้นตอนนี้ขิงจะเปลี่ยนเป็นสีชมพูอ่อน ๆ) คนให้เข้ากัน เก็บใส่ภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด (ถ้าเป็นขิงอ่อนสามารถกินได้เลยทันที หรือจะแช่ตู้เย็นไว้ประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนเพื่อความอร่อยมากยิ่งขึ้น)

Cr: kapook.com

7. ปลาดอรี่ทอดขิง

อาหารว่างสำหรับปาร์ตี้ ที่มีขิงเป็นส่วนประกอบ ที่รับรองว่าอร่อยแน่ๆ ขอนำเสนอปลาดอรี่ทอดขิง จับเนื้อปลาหมักกับขิงและเครื่องปรุง พอทอดเสร็จแล้วก็โรยขิงทอดลงไปเพิ่มความงาม

ส่วนผสม ปลาดอรี่ทอดขิง

• ปลาดอรี่ (หั่นให้ได้ชิ้นพอดีคำ) 1 ชิ้นใหญ่
• ขิงสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ หรือขิงผง 100%
• ขิงหั่นฝอย 1 ถ้วยตวง
• ซีอิ๊วขาว
• น้ำตาลทราย
• พริกไทยบดละเอียด 1/2 ช้อนชา
• แป้งชุบทอด
• น้ำมันสำหรับทอด

วิธีทำปลาดอรี่ทอดขิง

1. หมักปลาดอรี่ด้วยซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย พริกไทยบด และขิงสับ (ถ้าไม่สะดวกก็สามารถใช้ขิงผงได้) เทแป้งชุบทอดเคล้าให้ติดเนื้อปลาบาง ๆ พักไว้
2. ทอดขิงหั่นฝอยให้เหลืองกรอบ แล้วพักให้สะเด็ดน้ำมัน
3. นำเนื้อปลาหมักมาทอดจนได้ที่ ตักขึ้นใส่จาน โรยหน้าด้วยขิงฝอยทอด เสิร์ฟคู่กับซอสพริก ซอสมะเขือเทศ หรือน้ำจิ้มบ๊วย

Cr: นิตยสาร Mother&Care

8. ม็อกเทลแตงโมขิงโซดา

นึกไม่ถึงใช่ไม๊ล่ะ ว่าขิงจะสามารถมาทำม็อกเทลอร่อยๆกับเค้าได้ด้วย … ม็อกเทลแตงโมขิงโซดา คือเมนูเครื่องดื่มที่ลงตัวสุดๆเลยค่ะ เพราะน้ำสีแดงจากแตงโม ใส่ขิงเพิ่มกลิ่น เพิ่มความซาบซ่าจากโซดา ใครได้ลองต้องติดใจแน่นอนค่ะ

ส่วนผสม ม็อกเทลแตงโมขิงโซดา

• เนื้อแตงโมหั่นเต๋า 4 ถ้วย
• น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
• น้ำ 1 ถ้วย
• ขิงสดฝานเป็นแว่น 1 แง่ง หรือ ขิงผง 100%
• ฝักวานิลลา 1 ผัก (ขูดเมล็ดออก)
• แตงกวาไร้เม็ด 1 ลูก (สไลซ์เป็นแว่น)
• โซดา 1 ถ้วย
• น้ำแข็งบด

วิธีทำม็อกเทลแตงโมขิงโซดา

1. ใส่เนื้อแตงโมลงในเครื่องปั่น ปั่นจนละเอียด ยกลงกรองเอาเฉพาะน้ำ
2. เติมน้ำตาลทราย น้ำ ขิง หรือขิงผง และฝักวานิลลาพร้อมเม็ดลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง เคี่ยวจนน้ำตาลทรายละลายและเป็นน้ำเชื่อม ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น
3. ใส่น้ำแข็งบดลงในแก้ว ตามด้วยน้ำเชื่อมขิงเล็กน้อย เทน้ำแตงโมลงไป ใส่แตงกวาลงไป สุดท้ายเติมโซดาลงไปจนเต็มแก้ว (อัตราส่วนตามชอบ) พร้อมเสิร์ฟ

Cr: howsweeteats.com

9. ซุปขิง

มื้อเช้ามาทำอาหารเบา ๆ ท้องอย่างซุปขิง เนื้อซุปเนียนละเอียด โปะอาหารทะเลลวกลงไป แค่ถ้วยเดียวก็อิ่มท้อง แถมยังขับเหงื่อและช่วยระบบย่อยทำงานดีขึ้นอีก

ส่วนผสม ซุปขิง

• ขิงอ่อนปอกเปลือกซอยบาง 3 ถ้วย
• หอมหัวใหญ่สับ 1/2 ต้น
• น้ำมันมะกอกสำหรับผัด 3 ช้อนโต๊ะ
• มันฝรั่งหั่นเต๋า 3 ถ้วย
• ต้นหอมฝรั่งซอย 1 ถ้วย
• พริกไทยดำป่นเล็กน้อย
• ไวน์ขาว 1/4 ถ้วย
• วิปปิ้งครีมสด 1/2 ถ้วย
• น้ำสต๊อกไก่ 6 ถ้วย
• เกลือ 1+1/2 ช้อนชา
• อาหารทะเล ได้แก่ หอยเซลล์สด กุ้งทะเลสด และเนื้อปลาทะเลสด หั่นเป็นชิ้นพอคำ 2 ถ้วย
• ผักชีสำหรับตกแต่งเล็กน้อย

วิธีทำซุปขิง

1. อุ่นน้ำสต๊อกไก่ให้เดือดแล้วใส่อาหารทะเลลงลวกจนสุก ตักขึ้นพักไว้
2. ผัดหอมใหญ่สับกับน้ำมันมะกอกด้วยไฟอ่อนจนสุกใส ใส่ขิง ต้นหอม พริกไทย และมันฝรั่งลงผัดสักครู่ เติมไวน์ขาว เร่งไฟขึ้น ผัดต่ออีกประมาณ 1 นาที เติมน้ำสต๊อกที่ได้จากข้อ 1 ลงไป เติมเกลือ ลดไฟลงเป็นไฟกลางค่อนไปทางอ่อน ต้มจนมันฝรั่งนิ่ม ปิดไฟ พักให้เย็น
3. ใส่ลงในเครื่องปั่นแล้วปั่นจนได้ซุปเนื้อละเอียดเนียนดี เทกรองผ่านกระชอน ใช้ทัพพียีส่วนผสมซุปให้ผ่านกระชอนลงไปมากที่สุด เทซุปที่ได้กลับใส่หม้อ ยกขึ้นตั้งไฟกลาง ต้มให้ร้อนอีกครั้ง ปิดไฟ เติมครีมสด คนพอเข้ากัน ตักซุปใส่ถ้วย แล้วใส่เครื่องทะเลที่ลวกไว้ลงไป โรยด้วยผักชี พร้อมเสิร์ฟ

Cr: นิตยสาร Health & Cuisine

10. ไอศกรีมเต้าฮวยน้ำขิง

เมนูสุดครีเอท ต้องยกให้เมนูนี้เลยค่ะ เพราะแปลกใหม่ แถมอร่อยอีกด้วยอีกค่ะเรามาลองทำกันดีกว่า…

ส่วนผสม ไอศกรีมเต้าฮวยน้ำขิง

• น้ำตาลทรายแดง 80 กรัม
• สารให้ความคงตัว (seg) 2 กรัม
• น้ำตาลเดกซ์โตรส 40 กรัม
• มอลโตเดกซ์ตริน 40 กรัม
• เกลือ 1 กรัม
• น้ำร้อน (ทุบขิง 1 ชิ้นลงไปต้มด้วย) 750 กรัม
• ขิงผงสำเร็จรูป 2 ซอง
• เต้าหู้นิ่ม 1 ถ้วย

วิธีทำไอศกรีมเต้าฮวยน้ำขิง

1. นำน้ำตาลทรายแดง สารให้ความคงตัว (seg) น้ำตาลเดกซ์โตรส มอลโตเดกซ์ตริน และเกลือ ใส่อ่างผสม ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากัน
2. เทน้ำร้อนลงไป คนให้เข้ากัน นำขึ้นไปตั้งไฟอ่อน ๆ ให้พอควันขึ้นก็ยกลง เพื่อให้สารคงตัวละลาย
3. นำเต้าหู้นิ่มใส่โถปั่น ตามด้วยน้ำขิง ปั่นด้วยความเร็วสูงสุด 1 นาที จากนั้นกรองใส่ถุง แล้วนำเข้าตู้เย็นช่องธรรมดา 4 ชั่วโมง
4. เมื่อครบ 4 ชั่วโมงแล้ว ให้นำไปปั่นในเครื่องปั่นไอศกรีม ปั่นประมาณ 30 นาที
5. นำส่วนผสมทั้งหมดตักใส่ภาชนะสแตนเลส นำเข้าช่องฟรีซแช่จนแข็ง

Cr. คุณ shiku pantip.com

#Gingen#จินเจน#ขิงผงจินเจน
#ดื่มดีมีประโยชน์#ปรุงอาหารก็อร่อย
ช้อปจินเจนออนไลน์ได้แล้ววันนี้ที่

สูตรเด็ด 7 เมนูขิง กระตุ้นน้ำนมแม่

ขิง เป็นพืชสมุนไพรที่มีประโยชน์่ต่อแม่ท้อง และแม่หลังคลอดมากๆ เพราะการทานขิงจะช่วยให้คุณแม่มีน้ำนมมากขึ้นเรียกว่าน้ำนมพุ่งเลยทีเดียว เราเลยมาเเนะนำเมนูขิงใหม่ๆ ไปดูกันเลยค่ะว่ามีเมนูอะไรบ้าง

7 เมนู ขิง เรียกนมแม่

1. ไก่ผัดขิง
ส่วนผสม

  • เนื้อไก่ 150 กรัม
  • ขิงซอยเป็นเส้น 30 กรัม
  • กระเทียม 4-5 กลีบ
  • หอมหัวใหญ่ 1/4 ถ้วย
  • พริกชี้ฟ้า 1/2 ถ้วย
  • ต้นหอม 2 ต้น
  • เห็ดหูหนู 1 ถ้วย
  • ชีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา

วิธีทำ
1. หั่นไก่เป็นชิ้นพอดีคำ จากนั้นนำมาหมักกับซีอิ๊วขาว ทิ้งไว้ 10 นาที
2. ตั้งไฟให้น้ำมันเดือดพอประมาณ ใส่กระเทียมลงไปเจียวจนหอม จากนั้นใส่ไก่ที่หมักไว้ลงไปผัดจนเกือบสุก
3. ใส่ขิงและหัวหอมใหญ่ลงผัดคลุกเคล้ากับไก่จนไก่สุกได้ที่ ใส่เห็ดหูหนูตามลงไปผัดให้เข้ากัน
4. ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย น้ำตาลทราย ปรุงรสตามใจชอบ
5. จากนั้นใส่ต้นหอม และพริกชี้ฟ้าลงไปผัด คลุกเคล้าให้ส่วนผสมเข้ากันอีกครั้ง ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ

2. ซุปขิงทะเล
ส่วนผสม

  • ขิงอ่อนปอกเปลือกซอยบาง 3 ถ้วย
  • หอมหัวใหญ่สับ 1/2 ต้น
  • น้ำมันมะกอก 3 ช้อนโต๊ะ
  • มันฝรั่งหั่นเต๋า 3 ถ้วย
  • ต้นหอมฝรั่งซอย 1 ถ้วย
  • พริกไทยดำป่น
  • ไวน์ขาว 1/4 ถ้วย
  • วิปปิ้งครีมสด 1/2 ถ้วย
  • น้ำสต๊อกไก่ 6 ถ้วย
  • เกลือ 1+1/2 ช้อนชา
  • หอยเซลล์สด กุ้งทะเลสด และเนื้อปลาทะเลสด หั่นเป็นชิ้นพอคำ 2 ถ้วย
  • ผักชีสำหรับตกแต่งเล็กน้อย

วิธีทำ
1. อุ่นน้ำสต๊อกไก่ให้เดือดแล้วใส่อาหารทะเลลงลวกจนสุก ตักขึ้นพักไว้
2. ผัดหอมใหญ่สับกับน้ำมันมะกอกด้วยไฟอ่อนจนสุกใส ใส่ขิง ต้นหอม พริกไทย และมันฝรั่งลงผัดสักครู่
3. เติมไวน์ขาวผัดต่อประมาณ 1 นาที เติมน้ำสต๊อก เติมเกลือ ลดไฟลงต้มจนมันฝรั่งนิ่ม ปิดไฟ พักให้เย็น
4. ใส่ลงในเครื่องปั่นแล้วปั่นจนได้ซุปเนื้อละเอียดเนียนดี เทกรองผ่านกระชอน
5. ใช้ทัพพียีส่วนผสมซุปให้ผ่านกระชอนลงไปมากที่สุด จากนั้นนำซุปไปต้มให้ร้อนอีกครั้ง
6. ปิดไฟ เติมครีมสดคนพอเข้ากัน ตักซุปใส่ถ้วยแล้วใส่เครื่องทะเลที่ลวกไว้ โรยด้วยผักชี พร้อมเสิร์ฟ

3. เต้าหู้ผัดขิง
ส่วนผสม

  • เต้าหู้ไข่ 2 หลอด
  • เต้าหู้ญี่ปุ่น 1/2 ก้อน
  • ขิงซอย 1/2 ถ้วย
  • คื่นช่าย ต้นหอมหั่นท่อนอย่างละ 1 ต้น
  • เต้าเจี้ยว 1 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสปรุงรส 1 ช้อนชา
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  • น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
  • น้ำมันพืช

วิธีทำ
1. เต้าหู้หั่นชิ้นพอคำแล้วทอดแค่พอเหลืองแล้วตักพักไว้
2. เทน้ำมันออกให้เหลือแค่พอผัดนิดหน่อย ใส่กระเทียมลงเจียวให้หอม
3. ใส่ขิง เต้าเจี้ยวและเครื่องปรุงรสทั้งหมด ต้นคื่นช่ายและต้นหอม ผัดให้เข้ากัน
4. ใส่เต้าหู้ทอดลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟ

4. แซลมอนซอสขิง
ส่วนผสม

  • เนื้อปลาแซลมอน 200 กรัม
  • แป้งสาลี 1 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1/4 ช้อนชา
  • พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา
  • ขิงแก่หั่นเป็นเส้น 1 ช้อนโต๊ะ
  • วิปปิ้งครีม 1 ช้อนโต๊ะ
  • เกรวี่ หรือน้ำสต๊อกปลา 6 ช้อนโต๊ะ
  •  น้ำมันพืช 6 ช้อนโต๊ะ
  • ไวน์ขาว 2 ช้อนโต๊ะ
  • ผักต้มตามชอบ

วิธีทำ
1. นำเนื้อปลาแซลมอนโรยเกลือกับพริกไทยป่น และคลุกแป้ง นำไปย่างจนสุก จัดใส่จาน พักไว้
2. ตั้งกระทะใช้ไฟแรง เติมไวน์ขาว จากนั้นลดไฟ เทน้ำเกรวี่ลงไป ตามด้วยขิง
3. ปรุงรสด้วยเกลือกับพริกไทย ใส่วิปปิ้งครีม คนให้เข้ากัน
4. เสิร์ฟปลาแซลมอน ราดซอสขิง เคียงด้วยผักต้ม แต่งด้วยขิงแก่หั่นเป็นเส้น

5. มันต้มขิง
ส่วนผสม

  • มันเทศ  500 กรัม
  • น้ำ 4-5 ถ้วย
  • น้ำตาลกรวด 1 ถ้วย
  • ขิงแก่ หั่นเป็นแว่น 5-10 ชิ้น

วิธีทำ
1. ปอกเปลือกมันเทศ ล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นๆ แช่น้ำ เตรียมไว้
2. ใส่น้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง ใส่น้ำตาลกรวด คนผสมจนน้ำตาลละลายหมด
3. พอน้ำเดือด ใส่มันเทศลงต้มอีกครั้ง จากนั้นใส่ขิงลงต้มจนมันเทศสุก ชิมรสตามชอบ ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ

6. ไอศกรีมเต้าฮวยน้ำขิง
ส่วนผสม

  • น้ำตาลทรายแดง 80 กรัม
  • สารให้ความคงตัว (seg) 2 กรัม
  • น้ำตาลเดกซ์โตรส 40 กรัม
  • มอลโตเดกซ์ตริน 40 กรัม
  • เกลือ 1 กรัม
  • น้ำร้อน (ทุบขิง 1 ชิ้นลงไปต้มด้วย) 750 กรัม
  • ขิงผงสำเร็จรูป 2 ซอง
  • เต้าหู้นิ่ม 1 ถ้วย

วิธีทำ
1. นำน้ำตาลทรายแดง สารให้ความคงตัว น้ำตาลเดกซ์โตรส มอลโตเดกซ์ตรินและเกลือ ใส่อ่างผสม คนให้เข้ากัน
2. เทน้ำร้อนลงไป คนให้เข้ากัน นำขึ้นไปตั้งไฟอ่อนๆ ให้พอควันขึ้นก็ยกลง เพื่อให้สารคงตัวละลาย
3. นำเต้าหู้นิ่มใส่โถปั่น ตามด้วยน้ำขิง ปั่นด้วยความเร็วสูงสุด 1 นาที จากนั้นกรองใส่ถุง
4. นำเข้าตู้เย็นช่องธรรมดา 4 ชั่วโมง แล้วนำไปปั่นในเครื่องปั่นไอศกรีม ปั่นประมาณ 30 นาที
5. นำส่วนผสมทั้งหมดตักใส่ภาชนะสแตนเลส นำเข้าช่องฟรีซแช่จนแข็ง

7. สตรอว์เบอร์รีสมูทตี้ใส่ขิง
ส่วนผสม

  • กล้วยหอมแช่เย็น 120 กรัม
  • สตรอว์เบอร์รีแช่เย็น 180 กรัม
  • ขิงสับ 1 ช้อนโต๊ะ
  • โยเกิร์ตรสธรรมชาติแช่เย็น 1 ถ้วย
  • ข้าวโอ๊ต 25 กรัม
  • กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา
  • นมสด รสจืดแช่เย็น 1/4 ถ้วยตวง
  • ข้าวโอ๊ตสำหรับตกแต่ง

วิธีทำ
1. นำกล้วยหอม สตรอว์เบอร์รี ขิงสับ โยเกิร์ต นมสด ใส่ลงในโถปั่นน้ำผลไม้
2. เติมกลิ่นวานิลลา ปั่นให้ละเอียด รินใส่แก้ว ตกแต่งด้วยข้าวโอ๊ต จัดเสิร์ฟ

ขอบคุณสูตรอาหารจาก : นิตยสาร Health & Cuisine

——————————
#Gingen #จินเจน
#ดื่มน้ำขิงดื่มจินเจน #ดื่มจินเจนเป็นประจำทุกวัน
#ดื่มดีมีประโยชน์ #ปรุงอาหารก็อร่อย
.
.
www.gingen.com
ช้อปออนไลน์ที่: shop.gingen.com
ติดตามข่าวสารโปรโมชั่นที่: http://bit.ly/2MyYtlk

ข้าวแห้งเป็ด

– ขิงผงสำเร็จรูปจินเจน 1 ซอง
– ข้าวสวย 1 ถ้วย
– เนื้อเป็ด 100 กรัม
– ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
– น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
– พริกไทยป่น 1ช้อนชา
– ขึ้นฉ่าย, ตั้งฉ่าย, กระเทียมเจียว ตามความชอบ

——————————
#Gingen #จินเจน
#ดื่มน้ำขิงดื่มจินเจน #ดื่มจินเจนเป็นประจำทุกวัน
#ดื่มดีมีประโยชน์ #ปรุงอาหารก็อร่อย
.
.
www.gingen.com
ช้อปออนไลน์ที่: shop.gingen.com
ติดตามข่าวสารโปรโมชั่นที่: http://bit.ly/2MyYtlk

ข้าวหน้าเนื้อญี่ปุ่น

– ขิงผงสำเร็จรูปจินเจน 1 ซอง
– เนื้อสไลด์ 100 กรัม
– ข้าวสวย 70 กรัม
– ต้นหอม 20 กรัม
– หอมหัวใหญ่ 50กรัม
– โชยุ 1 ช้อนโต๊ะ
– น้ำตาลทราย ½ ช้อนโต๊ะ
– กระเทียม 4-5 กลีบ

——————————
#Gingen #จินเจน
#ดื่มน้ำขิงดื่มจินเจน #ดื่มจินเจนเป็นประจำทุกวัน
#ดื่มดีมีประโยชน์ #ปรุงอาหารก็อร่อย
.
.
www.gingen.com
ช้อปออนไลน์ที่: shop.gingen.com
ติดตามข่าวสารโปรโมชั่นที่: http://bit.ly/2MyYtlk

ทูน่าอบวุ้นเส้น

– ขิงผงสำเร็จรูปจินเจน 1 ซอง
– วุ้นเส้นแช่น้ำ 50 กรัม
– ทูน่า 1 กระป๋อง
– เบคอน 4 แผ่น
– น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ
– พริกไทย 1 ช้อนชา
– ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
– น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
– ขึ้นฉ่าย

——————————
#Gingen #จินเจน
#ดื่มน้ำขิงดื่มจินเจน #ดื่มจินเจนเป็นประจำทุกวัน
#ดื่มดีมีประโยชน์ #ปรุงอาหารก็อร่อย
.
.
www.gingen.com
ช้อปออนไลน์ที่: shop.gingen.com
ติดตามข่าวสารโปรโมชั่นที่: http://bit.ly/2MyYtlk

บัวลอยแห้งรสขิง

– ขิงผงสำเร็จรูปจินเจน 1 ซอง
– มันม่วง 100 กรัม
– แป้งข้าวเหนียว 300 กรัม
– น้ำตาลทราย ¼ ถ้วยตวง
– เกลือ ½ ช้อนชา
– น้ำเปล่า ¾ ถ้วยตวง

——————————
#Gingen #จินเจน
#ดื่มน้ำขิงดื่มจินเจน #ดื่มจินเจนเป็นประจำทุกวัน
#ดื่มดีมีประโยชน์ #ปรุงอาหารก็อร่อย
.
.
www.gingen.com
ช้อปออนไลน์ที่: shop.gingen.com
ติดตามข่าวสารโปรโมชั่นที่: http://bit.ly/2MyYtlk

ม็อคเทลขิงซ่า

– ขิงผงสำเร็จรูปจินเจน 1 ซอง
– น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ
– น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
– เกลือ ½ ช้อนชา
– โซดา 200 มิลลิลิตร
– ใบสะระแหน่ 4 ใบ
– น้ำแข็ง

——————————
#Gingen #จินเจน
#ดื่มน้ำขิงดื่มจินเจน #ดื่มจินเจนเป็นประจำทุกวัน
#ดื่มดีมีประโยชน์ #ปรุงอาหารก็อร่อย
.
.
www.gingen.com
ช้อปออนไลน์ที่: shop.gingen.com
ติดตามข่าวสารโปรโมชั่นที่: http://bit.ly/2MyYtlk

วุ้นมาลัยกะทิน้ำขิง

– ขิงผงสำเร็จรูปจินเจน 2 ซอง
– น้ำตาลทราย ½ ถ้วยตวง
– กะทิ 2 ถ้วยตวง
– ผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ
– น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง

——————————
#Gingen #จินเจน
#ดื่มน้ำขิงดื่มจินเจน #ดื่มจินเจนเป็นประจำทุกวัน
#ดื่มดีมีประโยชน์ #ปรุงอาหารก็อร่อย
.
.
www.gingen.com
ช้อปออนไลน์ที่: shop.gingen.com
ติดตามข่าวสารโปรโมชั่นที่: http://bit.ly/2MyYtlk

สเต็กแซลมอนซอสขิง

ส่วนผสมสเต็กแซลมอน
– ขิงผงสำเร็จรูปจินเจน ½ ซอง
– ปลาแซลมอน
– พริกไทย ½ ช้อนชา
– เกลือ ½ ช้อนชา
– น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสมซอสขิง
– ขิงผงสำเร็จรูปจินเจน 1 ซอง
– มิโซะ 1 ช้อนโต๊ะ
– น้ำเปล่า ¼ ถ้วยตวง
– น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
– มะนาว ½ ลูก

——————————
#Gingen #จินเจน
#ดื่มน้ำขิงดื่มจินเจน #ดื่มจินเจนเป็นประจำทุกวัน
#ดื่มดีมีประโยชน์ #ปรุงอาหารก็อร่อย
.
.
www.gingen.com
ช้อปออนไลน์ที่: shop.gingen.com
ติดตามข่าวสารโปรโมชั่นที่: http://bit.ly/2MyYtlk