น้ำขิง ควรดื่มเวลาไหน ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
น้ำขิง เครื่องดื่มธรรมชาติที่หลายคนคุ้นเคยกันดี ด้วยรสชาติเผ็ดร้อนและกลิ่นหอมเฉพาะตัว ทำให้หลายคนหลงใหลในรสชาติของน้ำขิง แต่รู้หรือไม่ว่านอกจากรสชาติที่อร่อยแล้ว น้ำขิงยังมีสรรพคุณทางยาที่น่าสนใจมากมาย ช่วยบรรเทาอาการต่างๆ ได้หลากหลาย หากได้ลองสัมผัสรสชาติของขิงผงจินเจนแล้วล่ะก็ จะยิ่งเพิ่มพลังให้กับน้ำขิงของคุณมากยิ่งขึ้น
น้ำขิงคืออะไร และมีดีอย่างไร?
น้ำขิง คือ เครื่องดื่มที่ได้จากการนำเหง้าขิงมาต้มหรือแช่ในน้ำร้อน ทำให้ได้น้ำที่มีรสชาติเผ็ดร้อนและกลิ่นหอมเฉพาะตัว สารสำคัญในขิงที่ให้รสเผ็ดร้อนและมีสรรพคุณทางยา
คือ จินเจอรอล (Gingerol) ซึ่งมีฤทธิ์ในการต้านการอักเสบ ช่วยลดอาการปวด บรรเทาอาการคลื่นไส้ และช่วยในการย่อยอาหาร
ดื่มน้ำขิงเวลาไหนดี?
เวลาที่เหมาะสมในการดื่มน้ำขิงนั้นขึ้นอยู่กับสรรพคุณที่ต้องการ แต่โดยทั่วไปแล้ว การดื่มน้ำขิงในช่วงเช้าจะช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญ และช่วยให้ร่างกายสดชื่นขึ้น ส่วนการดื่มน้ำขิงหลังอาหารจะช่วยในการย่อยอาหาร และลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ
สรรพคุณของน้ำขิง
- ช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้: น้ำขิงมีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียน ซึ่งมักเกิดจากการตั้งครรภ์ การเดินทาง หรือการเจ็บป่วย
- ช่วยลดอาการปวด: สารจินเจอรอลในขิงมีฤทธิ์ในการต้านการอักเสบ ช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ และปวดหัว
- ช่วยในการย่อยอาหาร: น้ำขิงช่วยกระตุ้นการหลั่งน้ำย่อย ทำให้อาหารย่อยง่ายขึ้น ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ
- บรรเทาอาการหวัด: น้ำขิงมีฤทธิ์ในการขับเสมหะ ช่วยบรรเทาอาการหวัด คัดจมูก และเจ็บคอ
- ช่วยลดคอเลสเตอรอล: การดื่มน้ำขิงเป็นประจำอาจช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้
- ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น: น้ำขิงมีฤทธิ์ในการทำให้ร่างกายอบอุ่น ช่วยบรรเทาอาการหนาวสั่น
- ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง: มีการศึกษาพบว่าสารสกัดจากขิงมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระและช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งบางชนิด
สูตรน้ำขิงผงจินเจน
- จินเจน 1 ซอง ชงน้ำร้อน 200 มล. คนให้เข้ากัน สามารถเติมน้ำแข็งตามชอบ สามารถเติม มะนาว หรือ ส้มฝาน เพื่อเพิ่มรสชาติตามชอบได้
สำหรับผลิตภัณฑ์จินเจน สามารถเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ shop.gingen.com