ขิงสุดยอดสมุนไพร ดื่มแล้วดีต่อสุขภาพอย่างไร?

ขิงสุดยอดสมุนไพร ดื่มแล้วดีต่อสุขภาพอย่างไร?

รู้หรือไม่ว่าคุณสามารถดื่ม  “จินเจน” ได้ทุกโอกาส? ขิงเป็นสมุนไพรที่มีคุณประโยชน์มากมาย ที่ไม่เพียงแต่ใช้ในการทำอาหาร แต่ยังเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่คนทั่วโลกนิยมใช้ ขิงอุดมไปด้วยสารอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง โดยเราสามารถดื่มน้ำขิงเพื่อให้ได้ประโยชน์เหล่านี้ในหลากหลายวิธี

 

1. ดื่มน้ำขิง ก่อนออกกำลังกายช่วยเพิ่มการเผาผลาญ

การดื่มน้ำขิงก่อนการออกกำลังกายสามารถช่วยกระตุ้นการเผาผลาญพลังงานในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ สารสำคัญในขิงช่วยในการเพิ่มการไหลเวียนเลือด ทำให้ร่างกายพร้อมสำหรับการออกกำลังกาย การดื่มน้ำขิงเป็นเหมือนการวอร์มอัพที่ช่วยให้ร่างกายมีความกระฉับกระเฉงและมีพลังในการออกกำลังกายมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกายได้ดี

 

 

2. ดื่มน้ำขิง ช่วยบรรเทาอาการเวียนศีรษะ

สำหรับผู้ที่มีอาการเวียนศีรษะหรือรู้สึกไม่สบายเมื่อเดินทาง น้ำขิงสามารถช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ได้ โดยมีคุณสมบัติในการปรับสมดุลให้กับร่างกาย ทำให้รู้สึกดีขึ้น เมื่อดื่มน้ำขิง ผู้ที่มีปัญหาความไม่สบายตัวจากการเดินทางสามารถรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นอีกด้วย

น้ำขิงเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับผู้ที่มักเมารถ หรือเมาเรืออีกด้วย เนื่องจากขิงมีสรรพคุณบรรเทาอาการคลื่นไส้ ทำให้คุณรู้สึกสบายขณะเดินทาง

3. ดื่มน้ำขิง ช่วยขับลมและแก้ท้องอืด

อาการท้องอืดหรือการมีลมในท้องเป็นปัญหาที่หลายคนพบเจอ การดื่มน้ำขิงหลังอาหารทุกมื้อสามารถช่วยขับลมและลดอาการท้องอืดได้ น้ำขิงมีฤทธิ์ช่วยในการย่อยอาหารที่ดี ทำให้รู้สึกสบายท้องมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4.ดื่มน้ำขิง หลังอาหาร ช่วยย่อยอาหาร สบายท้อง

น้ำขิงถือเป็นตัวช่วยที่ดีในการย่อยอาหาร ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาในการย่อยอาหาร การดื่มน้ำขิงหลังมื้ออาหารไม่เพียงแต่ช่วยลดอาการท้องอืด แต่ยังช่วยส่งเสริมการย่อยอาหารให้ดีขึ้น ช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้รู้สึกสบายท้องและช่วยปรับสมดุลในระบบย่อยอาหาร

5. ดื่มน้ำขิง เพิ่มภูมิคุ้มกัน และรักษาสมดุล

ในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง การดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเป็นสิ่งสำคัญ น้ำขิงเป็นตัวช่วย ในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและรักษาสมดุลให้กับร่างกาย โดยเฉพาะเมื่อสภาพอากาศแปรปรวน

การดื่มน้ำขิงช่วยลดความเสี่ยงของการเจ็บป่วย เช่น โรคหวัด ด้วยสารต้านการอักเสบและสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ น้ำขิงยังช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกายในวันที่อากาศเย็น โดยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้คุณรู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่า

การดื่มน้ำขิงยังช่วยลดอาการอ่อนเพลียและความเครียด ทำให้คุณรู้สึกสดชื่น และผ่อนคลายได้ดีขึ้น ด้วยคุณประโยชน์มากมาย น้ำขิงจึงเป็นทางเลือกที่ดีในการดูแลสุขภาพในทุกช่วงเวลา

6.ดื่มน้ำขิง ปรับสมดุลสำหรับคุณแม่

ขิงเป็นสมุนไพรที่มีคุณประโยชน์มากมาย โดยเฉพาะสำหรับคุณแม่ น้ำขิงจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น และ ช่วยการไหลเวียนเลือดอีกด้วย อีกทั้ง น้ำขิงยังมีคุณสมบัติในการลดอาการอักเสบ ซึ่งสามารถช่วยบรรเทาอาการบวมและอักเสบที่อาจเกิดขึ้นได้

สารต้านอนุมูลอิสระในขิงยังช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้คุณแม่มีร่างกายแข็งแรงได้ดีขึ้น

นอกจากนี้ น้ำขิงยังมีประโยชน์ต่อการผลิตน้ำนมสำหรับคุณแม่ที่ให้นมบุตร ขิงช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และ ยังช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย ซึ่งมีส่วนช่วยในการเพิ่มปริมาณน้ำนมให้กับคุณแม่ที่ให้นมลูก

ด้วยคุณประโยชน์เหล่านี้ น้ำขิงจึงเป็นตัวช่วยที่ยอดเยี่ยมในการฟื้นฟูร่างกายและเสริมสุขภาพสำหรับคุณแม่ช่วยให้คุณแม่สามารถดูแลตัวเองและลูกน้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ และรู้สึกดีขึ้นในทุกๆ วัน!

สำหรับผลิตภัณฑ์จินเจน สามารถเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ shop.gingen.com

รู้หรือไม่ว่าสามารถดื่ม “จินเจน” ได้ทุกโอกาส

รู้หรือไม่ว่าสามารถดื่ม “จินเจน” ได้ทุกโอกาส

น้ำขิง  เป็นเครื่องดื่มที่อบอุ่นใจและเต็มไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย  หากคุณกำลังมองหาวิธีดูแลสุขภาพที่ง่ายและมีประสิทธิภาพ น้ำขิงอาจเป็นคำตอบที่คุณกำลังหาอยู่!  บทความนี้จะบอกว่าทำไมการดื่มน้ำขิงจึงเหมาะสมในทุกโอกาส ตั้งแต่การช่วยย่อยอาหารหลังมื้ออาหาร ไปจนถึงการฟื้นฟูร่างกายและเสริมภูมิคุ้มกันในช่วงเวลาต่างๆ  เราจะมาร่วมเรียนรู้วิธีการที่ทำให้คุณสามารถเพิ่มน้ำขิงเข้ามาในชีวิตประจำวันได้อย่างง่ายดายและมีสุขภาพดีไปด้วยกัน!

1. ดื่มน้ำขิงหลังมื้ออาหาร

ขิงช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารหลังมื้ออาหาร ลดอาการท้องอืด และทำให้ระบบย่อยทำงานได้มีประสิทธิภาพ ทำให้รู้สึกสบายท้อง

2. ดื่มน้ำขิงเพื่อดูแลสุขภาพและบรรเทาอาการหวัด

ขิงช่วยบรรเทาอาการหวัด คัดจมูก และไอได้ดี ด้วยคุณสมบัติต้านการอักเสบและเสริมภูมิคุ้มกัน น้ำขิงร้อนช่วยฟื้นตัวจากหวัดและเสริมการทำงานของร่างกาย

3. ดื่มน้ำขิงก่อนออกกำลังกาย

ขิงช่วยเพิ่มพลังงานและการเผาผลาญไขมันในร่างกาย ทำให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังช่วยบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกายได้ดี

4. ดื่มน้ำขิงยามเช้า

เริ่มต้นวันด้วยการดื่มน้ำขิงในตอนเช้าช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญ และเสริมพลังงานให้กับร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยลดความอยากอาหารระหว่างวัน ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก

5. ดื่มน้ำขิงก่อนนอน

น้ำขิงอุ่นๆ ก่อนนอนช่วยทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีในระหว่างการนอนหลับ ลดอาการท้องอืด ทำให้คุณหลับสบายและตื่นเช้ามาด้วยความสดชื่น

6. ดื่มน้ำขิงระหว่างท่องเที่ยวเดินทาง 

น้ำขิงเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับผู้ที่มักเมารถเมาเรือ เนื่องจากขิงมีสรรพคุณบรรเทาอาการคลื่นไส้และทำให้คุณรู้สึกสบายขณะเดินทาง

7. ดื่มน้ำขิงเพื่อบำรุงคุณแม่มือใหม่ 

ขิงช่วยบรรเทาอาการหลังคลอดและเสริมสุขภาพให้คุณแม่มือใหม่ โดยเฉพาะในด้านการฟื้นฟูระบบย่อยอาหารและช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้นหลังจากการคลอด

8. ใช้ขิงผงสำหรับทำและปรุงอาหาร

ขิงผงสามารถใช้ในการปรุงอาหาร เช่น ใส่ในซุป น้ำแกง ขนมอบ หรือในชา ขิงผงช่วยเพิ่มรสชาติให้กับอาหารและเสริมคุณค่าทางโภชนาการได้อย่างดี

 

สำหรับท่านที่ต้องการรับประทานขิง ในวาระโอกาสต่างๆ  ปัจจุบันสามารถบริโภคขิงผงสำเร็จรูปทดแทนได้ โดยจะเลือกแบบไม่มีน้ำตาล หรือเลือกรสชาติตามต้องการ

ขิงผงสำเร็จรูปจินเจน เป็นขิงแท้ที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน หอม อร่อย กลมกล่อม ตามแบบฉบับเฉพาะของจินเจน เปี่ยมไปด้วยคุณค่าของขิงแก่สดคุณภาพเยี่ยม ที่ผ่านการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน เหมาะสำหรับผู้ที่มีความกังวลเรื่องน้ำตาล ดื่มเป็นเครื่องดื่มร้อนหรือเย็นได้ทุกครั้งหลังมื้ออาหาร เพื่อปรับสมดุลจากภายใน หรือใช้แทนขิงสดในการปรุงอาหาร ทั้งคาวหวาน สะดวกเพียงฉีกซองแล้วเท

 

ดื่มความสุขสดชื่น ดื่มน้ำขิง ดื่มจินเจน

สำหรับผลิตภัณฑ์จินเจน สามารถเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ shop.gingen.com

“น้ำขิง” หลังมื้ออาหาร ช่วยย่อยได้อย่างไร?

น้ำขิงหลังมื้ออาหาร ช่วยย่อยได้อย่างไร? 

น้ำขิงช่วยย่อยอาหารได้อย่างไร?

1.กระตุ้นการหลั่งน้ำย่อย

สารประกอบในขิงจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งน้ำย่อยออกมา ทำให้การย่อยอาหารเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

2.ลดอาการท้องอืด

น้ำขิงช่วยลดการบีบตัวของกล้ามเนื้อในลำไส้ ทำให้ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อได้

3.บรรเทาอาการจุกเสียด

สาร gingerol ในขิงมีฤทธิ์ช่วยลดการอักเสบในระบบทางเดินอาหาร ช่วยบรรเทาอาการจุกเสียด แน่นท้อง

4.ขับลม

น้ำขิงช่วยขับลมออกจากร่างกาย ทำให้รู้สึกสบายท้องมากขึ้น

นอกจากนี้ น้ำขิงยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย เช่น

ช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้: เหมาะสำหรับคนที่รู้สึกไม่สบายตัว หรือมีอาการเมารถ เมาเรือ

ลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ: ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและลดอาการปวดเมื่อย

ต้านการอักเสบ: ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย

มีสารต้านอนุมูลอิสระ: ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์

วิธีดื่มน้ำขิงเพื่อช่วยย่อย

ดื่มหลังมื้ออาหารประมาณ 30 นาที: ช่วยให้ร่างกายมีเวลาในการย่อยอาหาร และน้ำขิงก็จะเข้าไปช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ดื่มอุ่นๆ: การดื่มน้ำขิงอุ่นๆ จะช่วยให้ร่างกายอบอุ่น และช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อในระบบทางเดินอาหารได้ดี

ผสมน้ำผึ้ง หรือมะนาว: เพื่อเพิ่มรสชาติและประโยชน์ต่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น

ดื่มความสุขสดชื่น ดื่มน้ำขิง ดื่มจินเจน

สำหรับผลิตภัณฑ์จินเจน สามารถเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ shop.gingen.com

 

ดื่มน้ำขิงหลังมื้ออาหาร ช่วยให้การดูดซึมดีขึ้น

ดื่มน้ำขิงหลังมื้ออาหาร ช่วยให้การดูดซึมดีขึ้น

ดื่มน้ำขิงหลังมื้ออาหาร ดีอย่างไร?

การดื่มน้ำขิงหลังมื้ออาหารจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมอาหารได้ดีขึ้น เพราะสาร Gingerol ในขิงมีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นการหลั่งน้ำย่อย ทำให้อาหารย่อยได้ดีขึ้น

นอกจากนี้ยังช่วยเรื่องอื่นๆดังนี้

  • ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย ลดการอักเสบ: ขิงมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ช่วยลดอาการปวดท้องและอาการระคายเคืองในลำไส้
  • บรรเทาอาการคลื่นไส้: ขิงช่วยลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ซึ่งมักเกิดจากการย่อยอาหารไม่ดี
  • ช่วยขับลม: ขิงช่วยขับลมในลำไส้ ลดอาการท้องอืด
  • มีฤทธิ์เป็นยาฆ่าเชื้อ: ช่วยลดการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร

ช่วยระบบย่อย ระบบดูดซึมอย่างไร?

  • กระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้
  • ลดการอักเสบ
  • ป้องกันแผลในกระเพาะอาหาร
  • บรรเทาอาการคลื่นไส้
  • ช่วยในการดูดซึมสารอาหาร

ขิงเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารได้เป็นอย่างดี สารสำคัญในขิงที่ชื่อว่า จินเจอรอล (Gingerol) เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดผลลัพธ์เหล่านี้ โดยมีกลไกการทำงานหลักๆ ดังนี้

1. กระตุ้นการหลั่งน้ำย่อย

  • เพิ่มปริมาณน้ำย่อย: จินเจอรอลจะไปกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำย่อยต่างๆ เช่น กรดในกระเพาะอาหาร เอนไซม์ในลำไส้ เพิ่มขึ้น ทำให้อาหารถูกย่อยสลายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • ปรับปรุงคุณภาพน้ำย่อย: นอกจากจะเพิ่มปริมาณแล้ว จินเจอรอลยังช่วยปรับปรุงคุณภาพของน้ำย่อย ทำให้น้ำย่อยทำงานได้ดียิ่งขึ้น

2. ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ

  • ลดการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ: ขิงมีฤทธิ์ในการผ่อนคลายกล้ามเนื้อเรียบในระบบทางเดินอาหาร ช่วยลดอาการปวดเกร็งและการหดเกร็งของลำไส้ ทำให้การเคลื่อนไหวของอาหารเป็นไปอย่างราบรื่น
  • บรรเทาอาการท้องอืด: การผ่อนคลายกล้ามเนื้อช่วยลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และแก๊สในกระเพาะอาหาร

3. ต้านอนุมูลอิสระ

  • ปกป้องเซลล์: สารต้านอนุมูลอิสระในขิงจะเข้าไปจับกับอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของการทำลายเซลล์ ทำให้เซลล์ในระบบทางเดินอาหารได้รับการปกป้อง
  • ลดการอักเสบ: การอักเสบเรื้อรังในลำไส้เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานผิดปกติ สารต้านอนุมูลอิสระในขิงจะช่วยลดการอักเสบนี้ได้

สรุปง่ายๆก็คือ กลไกการทำงานของขิงในการช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารนั้นค่อนข้างซับซ้อน แต่โดยรวมแล้ว ขิงจะเข้าไปทำงานในระดับเซลล์ ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหารหลายส่วน ทั้งการผลิตน้ำย่อย การเคลื่อนไหวของลำไส้ และการป้องกันการอักเสบ ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เพราะฉะนั้น การดื่มน้ำขิงหลังมื้ออาหาร จึงช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้นทำให้ร่างกายแข็งแรง สุขภาพดี

ลองนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันกันนะครับ

ดื่มด่ำกับความหอมและรสชาติอันล้ำลึกของขิงแท้ๆ ให้ความหอม อร่อย กลมกล่อม อย่างเป็นธรรมชาติ เปิดประสบการณ์การดื่มน้ำขิงที่เปี่ยมไปด้วยคุณค่าของขิงแท้คุณภาพเยี่ยมที่ผ่านคัดสรรอย่างพิถีพิถันในทุกๆ ขั้นตอน มอบความรู้สึกความสดชื่นที่มาพร้อมกับรสชาติเข้มข้นและความหอมที่เป็นเอกลักษณ์ รสสัมผัสอันพิเศษที่ไม่สามารถหาได้จากที่อื่นใด

ดื่มความสุขสดชื่น ดื่มน้ำขิง ดื่มจินเจน

สำหรับผลิตภัณฑ์จินเจน สามารถเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ shop.gingen.com

 

ทำไมหน้าฝนต้องคู่กับน้ำขิงอุ่นๆ

ทำไมหน้าฝนต้องคู่กับน้ำขิงอุ่นๆ

เมื่อสายฝนโปรยปรายทั่วฟ้า อากาศเย็นสบายก็มาเยือน แต่ก็มาพร้อมกับความชื้นและอุณหภูมิที่ลดลง ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพของเราได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาการเจ็บป่วยจากหวัด ไข้หวัดใหญ่ หรือโรคทางเดินหายใจอื่นๆ มักจะระบาดในช่วงฤดูฝนนี้ หนึ่งในวิธีดูแลสุขภาพที่ดีที่สุดในช่วงเวลานี้คือการดื่มน้ำขิงอุ่นๆ ซึ่งเป็นเครื่องดื่มธรรมชาติที่มีสรรพคุณมากมาย

ช่วยให้ร่างกายอบอุ่นและแข็งแรง

 

สาเหตุที่เป็นหวัดในหน้าฝน:

แน่นอนค่ะว่าความชื้นสูงและอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงในช่วงหน้าฝนเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้เราเป็นหวัดได้ง่ายขึ้น

แต่ยังมีอีกหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องกัน มาเจาะลึกกันเลยค่ะว่าทำไมหน้าฝนเราถึงป่วยง่ายกว่าปกติ

ปัจจัยที่ทำให้เป็นหวัดง่ายในหน้าฝน

  • ความชื้นสูง: อากาศชื้นในช่วงหน้าฝนเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของเชื้อโรค เช่น ไรฝุ่น รา และแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคภูมิแพ้และการติดเชื้อทางเดินหายใจ
  • อุณหภูมิเปลี่ยนแปลง: อุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงบ่อยและรวดเร็ว ทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน เกิดภาวะภูมิคุ้มกันลดลง และเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย
  • เชื้อโรคแพร่กระจายง่าย: เมื่อฝนตก ลมจะพัดพาเชื้อโรคต่างๆ ในอากาศ เช่น ไวรัสหวัด ไวรัสไข้หวัดใหญ่ มาปะทะกับร่างกายของเราได้ง่ายขึ้น
  • การสัมผัสกับวัตถุที่ปนเปื้อน: ในช่วงหน้าฝน เราอาจสัมผัสกับวัตถุต่างๆ ที่เปียกชื้นและมีเชื้อโรคปนเปื้อน เช่น ราวบันได ลูกบิดประตู เมื่อนำมือมาสัมผัสใบหน้า จึงมีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย
  • การพักผ่อนไม่เพียงพอ: ในช่วงหน้าฝน หลายคนอาจรู้สึกง่วงนอนและอ่อนล้า ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ไม่เต็มที่
  • ภาวะขาดวิตามิน: การรับประทานอาหารไม่ครบหมู่ หรือการดูดซึมวิตามินไม่ดีพอ ทำให้ร่างกายอ่อนแอและต้านทานโรคได้น้อยลง

วิธีดูแลสุขภาพในช่วงหน้าฝน

  • รักษาความสะอาด: ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่และน้ำสะอาด โดยเฉพาะหลังจากสัมผัสกับวัตถุหรือพื้นผิวที่อาจปนเปื้อน
  • หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่อับชื้น: เปิดหน้าต่างบ่อยๆ เพื่อระบายอากาศ และทำความสะอาดบ้านให้สะอาดอยู่เสมอ
  • สวมใส่เสื้อผ้าที่อบอุ่น: ป้องกันไม่ให้ร่างกายสัมผัสกับอากาศเย็นจนเกินไป
  • พักผ่อนให้เพียงพอ: การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและสามารถต่อสู้กับโรคภัยได้ดีขึ้น
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์: เลือกทานอาหารที่มีวิตามินและแร่ธาตุครบถ้วน เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: การออกกำลังกายช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีขึ้น
  • ดื่มน้ำมากๆ: การดื่มน้ำช่วยให้ร่างกายชุ่มชื้นและขับของเสียออกจากร่างกาย
  • ดื่มน้ำขิงอุ่นๆ: ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และบรรเทาอาการเจ็บคอ
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ป่วย: หากมีคนในครอบครัวหรือเพื่อนร่วมงานป่วย ควรหลีกเลี่ยงการใกล้ชิด

ประโยชน์ของน้ำขิง(โดยเฉพาะในหน้าฝน):

น้ำขิง นอกจากจะเป็นเครื่องดื่มที่ให้ความอบอุ่นในช่วงหน้าฝนแล้วยังมีสรรพคุณทางยาที่ช่วยดูแลสุขภาพได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ร่างกายอ่อนแอและเสี่ยงต่อการติดเชื้อต่างๆ มาดูกันว่าน้ำขิงมีประโยชน์อะไรบ้างนอกเหนือจากที่กล่าวมา

  • เสริมภูมิคุ้มกัน:ช่วยป้องกันไข้หวัดและปัญหาระบบทางเดินหายใจ
  • บรรเทาอาการ:ไอ เจ็บคอ น้ำมูกไหล คลื่นไส้ มีเสมหะ
  • น้ำขิงอุ่นๆ ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น: เหมาะสำหรับช่วงอากาศเย็นชื้นในหน้าฝน
  • ขิงมีสารต้านอนุมูลอิสระ: ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง
  • ขิงมีฤทธิ์ในการลดการอักเสบ: ช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอและอาการระคายเคืองในลำคอ

ประโยชน์อื่นๆ ของน้ำขิง

  • ลดการอักเสบ: สารในขิงช่วยลดการอักเสบในร่างกาย ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และอาการปวดข้อ
  • ช่วยระบบย่อยอาหาร: ขิงช่วยกระตุ้นการหลั่งน้ำย่อย ทำให้อาหารย่อยง่ายขึ้น ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ
  • บรรเทาอาการปวดประจำเดือน: ขิงมีฤทธิ์ในการลดอาการปวดเกร็งของกล้ามเนื้อมดลูก ช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือน
  • ช่วยลดความเครียด: กลิ่นหอมของขิงช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียด และช่วยให้นอนหลับสบาย
  • มีสารต้านอนุมูลอิสระ: ช่วยป้องกันเซลล์จากความเสียหาย และชะลอความเสื่อมของร่างกาย
  • ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด: มีงานวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นว่าขิงอาจช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้

การบริโภคน้ำขิง:

ขิงสด 5 กรัม มาบดหรือต้มกับน้ำสะอาด ดื่มหลังอาหาร 3 มื้อต่อวัน

หรือง่ายกว่านั้นเพียงฉีกซองขิงผงจินเจน (ขิง100% ไม่มีน้ำตาล)เติมน้ำร้อน คนให้ละลาย แล้วจิบน้ำขิงอุ่น ๆสัมผัสกับความหอม อร่อย กลมกล่อม ได้เลย

 

วิธีดื่มน้ำขิงให้ได้ประโยชน์สูงสุด

  • ดื่มขณะอุ่น: การดื่มน้ำขิงขณะอุ่นจะช่วยให้ร่างกายอบอุ่น และช่วยให้สรรพคุณของขิงออกฤทธิ์ได้ดีขึ้น
  • ดื่มเป็นประจำ: การดื่มน้ำขิงเป็นประจำทุกวันจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและป้องกันโรคได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะหลังมื้ออาหาร
  • ปรับปริมาณขิงให้เหมาะสม: ปริมาณขิงที่ใช้ในการทำน้ำขิงขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล หากไม่เคยดื่มน้ำขิงมาก่อน ควรเริ่มจากปริมาณน้อยๆ ก่อน
  • ผสมกับเครื่องดื่มอื่นๆ: นอกจากจะดื่มน้ำขิงเปล่าๆ แล้ว ยังสามารถนำขิงไปผสมกับเครื่องดื่มอื่นๆ ได้ เช่น น้ำผึ้ง หรือน้ำมะนาว

สัมผัสความบริสุทธิ์ของคุณค่าขิงแท้จากธรรมชาติ ดื่มด่ำกับความหอมและรสชาติอันล้ำลึกของขิงแท้ๆ ให้ความหอม อร่อย กลมกล่อม อย่างเป็นธรรมชาติ เปิดประสบการณ์การดื่มน้ำขิงที่เปี่ยมไปด้วยคุณค่าของขิงแท้คุณภาพเยี่ยมที่ผ่านคัดสรรอย่างพิถีพิถันในทุกๆ ขั้นตอน มอบความรู้สึกความสดชื่นที่มาพร้อมกับรสชาติเข้มข้นและความหอมที่เป็นเอกลักษณ์ รสสัมผัสอันพิเศษที่ไม่สามารถหาได้จากที่อื่นใด

เติมเต็มช่วงเวลาแห่งความผ่อนคลายด้วยจินเจน ขิง 100% ไม่มีน้ำตาล ที่ไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณสดชื่น แต่ยังดีต่อสุขภาพในทุก ๆ วันแบบไม่ต้องกังวล เหมาะสำหรับดื่มในทุกช่วงเวลา ไม่ว่าจะเช้า บ่าย เย็น หรือก่อนนอน ดื่มหลังมื้ออาหารเพื่อช่วยขับลม เสริมการย่อย และลดไขมัน ดื่มก่อนนอน เพื่อช่วยให้ผ่อนคลายหลับสบาย และเพิ่มความสะดวกสบายเพราะสามารถใช้แทนขิงสดเพื่อปรุงอาหารให้อร่อยยิ่งขี้น

 

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการดูแลสุขภาพของคุณนะคะ

ดื่มความสุขสดชื่น ดื่มน้ำขิง ดื่มจินเจน

สำหรับผลิตภัณฑ์จินเจน สามารถเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ shop.gingen.com

น้ำขิง ควรดื่มเวลาไหน ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?

น้ำขิง ควรดื่มเวลาไหน ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?

น้ำขิง เครื่องดื่มธรรมชาติที่หลายคนคุ้นเคยกันดี ด้วยรสชาติเผ็ดร้อนและกลิ่นหอมเฉพาะตัว ทำให้หลายคนหลงใหลในรสชาติของน้ำขิง แต่รู้หรือไม่ว่านอกจากรสชาติที่อร่อยแล้ว  น้ำขิงยังมีสรรพคุณทางยาที่น่าสนใจมากมาย ช่วยบรรเทาอาการต่างๆ ได้หลากหลาย หากได้ลองสัมผัสรสชาติของขิงผงจินเจนแล้วล่ะก็                                        จะยิ่งเพิ่มพลังให้กับน้ำขิงของคุณมากยิ่งขึ้น

 

น้ำขิงคืออะไร และมีดีอย่างไร?

น้ำขิง คือ เครื่องดื่มที่ได้จากการนำเหง้าขิงมาต้มหรือแช่ในน้ำร้อน ทำให้ได้น้ำที่มีรสชาติเผ็ดร้อนและกลิ่นหอมเฉพาะตัว สารสำคัญในขิงที่ให้รสเผ็ดร้อนและมีสรรพคุณทางยา     

คือ จินเจอรอล (Gingerol) ซึ่งมีฤทธิ์ในการต้านการอักเสบ ช่วยลดอาการปวด บรรเทาอาการคลื่นไส้ และช่วยในการย่อยอาหาร

 

ดื่มน้ำขิงเวลาไหนดี?

เวลาที่เหมาะสมในการดื่มน้ำขิงนั้นขึ้นอยู่กับสรรพคุณที่ต้องการ แต่โดยทั่วไปแล้ว การดื่มน้ำขิงในช่วงเช้าจะช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญ และช่วยให้ร่างกายสดชื่นขึ้น              ส่วนการดื่มน้ำขิงหลังอาหารจะช่วยในการย่อยอาหาร และลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ

สรรพคุณของน้ำขิง

  • ช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้: น้ำขิงมีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียน ซึ่งมักเกิดจากการตั้งครรภ์ การเดินทาง หรือการเจ็บป่วย
  • ช่วยลดอาการปวด: สารจินเจอรอลในขิงมีฤทธิ์ในการต้านการอักเสบ ช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ และปวดหัว
  • ช่วยในการย่อยอาหาร: น้ำขิงช่วยกระตุ้นการหลั่งน้ำย่อย ทำให้อาหารย่อยง่ายขึ้น ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ
  • บรรเทาอาการหวัด: น้ำขิงมีฤทธิ์ในการขับเสมหะ ช่วยบรรเทาอาการหวัด คัดจมูก และเจ็บคอ
  • ช่วยลดคอเลสเตอรอล: การดื่มน้ำขิงเป็นประจำอาจช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้
  • ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น: น้ำขิงมีฤทธิ์ในการทำให้ร่างกายอบอุ่น ช่วยบรรเทาอาการหนาวสั่น
  • ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง: มีการศึกษาพบว่าสารสกัดจากขิงมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระและช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งบางชนิด

 

สูตรน้ำขิงผงจินเจน

  • จินเจน 1 ซอง ชงน้ำร้อน 200 มล. คนให้เข้ากัน สามารถเติมน้ำแข็งตามชอบ สามารถเติม มะนาว หรือ ส้มฝาน เพื่อเพิ่มรสชาติตามชอบได้

สำหรับผลิตภัณฑ์จินเจน สามารถเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ shop.gingen.com

เสริมภูมิอย่างเร่งด่วน! กับเมนูขิงง่ายๆในมื้อเช้า

เสริมภูมิอย่างเร่งด่วน! กับเมนูขิงง่ายๆในมื้อเช้า

ในช่วงที่โรคภัยไข้เจ็บมารุมเร้า การมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ขิง สมุนไพรไทยที่หาซื้อง่ายและมีสรรพคุณมากมาย นับเป็นตัวช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงได้เป็นอย่างดี วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับเมนูขิงง่ายๆ ที่สามารถนำมาทานเป็นมื้อเช้า เพื่อช่วยให้ร่างกายแข็งแรง พร้อมรับมือกับโรคภัยไข้เจ็บได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1. น้ำขิงร้อน

วัตถุดิบ: ขิงสด 1 นิ้ว, น้ำร้อน 1 แก้ว

วิธีทำ: ล้างขิงให้สะอาด ปอกเปลือก แล้วหั่นเป็นชิ้นบางๆ ใส่ลงในแก้ว เทน้ำร้อนลงไป รอประมาณ 5-10 นาที ก่อนดื่ม *แนะนำให้ดื่มหลังมื้ออาหารให้ครบทั้งสามมื้อ

2. ขิงมะนาวโซดา

วัตถุดิบ: ขิงสด 1 นิ้ว, มะนาว 1/2 ลูก, น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา, น้ำโซดา 1 แก้ว, ใบสะระแหน่ (สำหรับตกแต่ง)

วิธีทำ: ล้างขิงและมะนาวให้สะอาด หั่นขิงเป็นชิ้นบางๆ บีบน้ำมะนาวใส่แก้ว ตามด้วยขิง น้ำผึ้ง และน้ำแข็ง เทน้ำโซดาลงไป คนให้เข้ากัน ตกแต่งด้วยใบสะระแหน่

3. ขิงผงสำเร็จรูปชงน้ำอุ่น

วัตถุดิบ: จินเจน ขิง 100% ไม่มีน้ำตาล 1 ซอง, น้ำอุ่น 1 แก้ว

วิธีทำ: ละลายขิงผงสำเร็จรูปลงในน้ำอุ่น คนให้เข้ากัน

4. ขิงดอง

วัตถุดิบ: ขิงสด 500 กรัม, น้ำส้มสายชู 2 ถ้วย, น้ำตาลทราย 1 ถ้วย, เกลือ 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ: ล้างขิงให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นบางๆ ผสมน้ำส้มสายชู น้ำตาลทราย และเกลือให้เข้ากัน ใส่ขิงลงในโหลแก้ว เทน้ำปรุงรสลงไป ปิดฝาโหลให้สนิท พักไว้ 1-2 อาทิตย์

นอกจากสูตรเหล่านี้แล้ว ยังสามารถนำขิงไปประกอบอาหารได้อีกหลากหลายเมนู เช่น

  • ขิงผัดไข่: เพิ่มความอร่อยและมีประโยชน์
  • สลัดผักโรยหน้าขิง: เพิ่มรสชาติเผ็ดร้อน
  • ซุปขิง: อุ่นร่างกายและช่วยบรรเทาอาการหวัด

ข้อดีของการทานขิง

  • เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน: ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ป้องกันการติดเชื้อ
  • ลดอาการอักเสบ: บรรเทาอาการเจ็บคอ น้ำมูกไหล
  • ช่วยระบบย่อยอาหาร: ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ
  • บรรเทาอาการปวดเมื่อย: ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ

การทานขิงเป็นประจำเป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง ลองนำสูตรเหล่านี้ไปปรับใช้กันดูนะคะ เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณและคนที่คุณรัก

สำหรับท่านที่ต้องการรับประทานขิงเพื่อช่วยเสริมภูมิ ปัจจุบันสามารถบริโภคขิงผงสำเร็จรูปทดแทนได้

โดยจะเลือกแบบไม่มีน้ำตาล หรือเลือกรสชาติตามต้องการ

ขิงผงสำเร็จรูปจินเจน เป็นขิงแท้ที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน ให้ความสดชื่นและกลมกล่อมในทุกการบริโภค จินเจน 100% แบบไม่มีน้ำตาล สามารถใช้แทนขิงแก่สดแท้จากธรรมชาติได้ เพื่อเพิ่มรสชาติอาหารให้เผ็ดร้อน เข้มข้น ยิ่งขึ้น

เครื่องดื่มขิง จึงเป็นตัวเลือกที่ดีเนื่องจากขิงมีสารสำคัญหลายชนิดที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เช่น จินเจอรอล (Gingerol) ซึ่งมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยลดอาการเจ็บคอและบรรเทาอาการหวัด นอกจากนี้ ขิงยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหาย และช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น

สำหรับผลิตภัณฑ์จินเจน สามารถเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ shop.gingen.com

อร่อยและดีต่อสุขภาพ! เมนูอาหารเช้าผสมขิง

อร่อยและดีต่อสุขภาพ! เมนูอาหารเช้าผสม “ขิง”

 

สวัสดีค่ะทุกคน! วันนี้เราจะมาแนะนำเมนูอาหารเช้าสุดพิเศษ ที่ไม่เพียงแต่อร่อยถูกปาก แต่ยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย นั่นก็คือ “เมนูอาหารเช้าผสมขิง” นั่นเองค่ะ

“ขิง” นอกจากจะมีรสชาติเผ็ดร้อน ช่วยเพิ่มความอร่อยให้กับอาหารแล้ว ยังมีสรรพคุณทางยาที่ช่วยบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันอีกด้วย

มาดูกันเลยว่าจะมีเมนูอะไรบ้างที่น่าสนใจ

ไอเดียเมนูอาหารเช้าผสม “ขิง”

  • โอ๊ตมอลล์ผสมขิงและผลไม้

เพิ่มความอร่อยและคุณค่าทางอาหารให้กับโอ๊ตมอลล์ด้วยการโรยขิงขูดเล็กน้อย และเพิ่มท็อปปิ้งด้วยผลไม้สดตามชอบ เช่น กล้วยหอม สตรอว์เบอร์รี หรือบลูเบอร์รี

  • ไข่คนใส่ขิง

เพิ่มความแปลกใหม่ให้กับไข่คนจานโปรด ด้วยการใส่ขิงขูดเล็กน้อยลงไปขณะคนไข่ จะช่วยเพิ่มรสชาติเผ็ดร้อนและกลิ่นหอมชวนรับประทาน

 

  • สมูทตี้ขิง

 

ผสมขิงขูดเล็กน้อยลงในสมูทตี้ผลไม้ตามชอบ เช่น กล้วย แอปเปิล หรือสับปะรด จะช่วยให้สมูทตี้มีรสชาติที่ซับซ้อนและน่าสนใจยิ่งขึ้น

  • โยเกิร์ตผสมขิงและธัญพืช

เพิ่มความอร่อยให้กับโยเกิร์ตด้วยการโรยขิงขูดและธัญพืชต่างๆ เช่น เมล็ดเจีย เมล็ดเชีย หรืออัลมอนด์

  • ชาขิง

ชงชาขิงร้อนๆ ดื่มคู่กับขนมปังปิ้งหรือไข่ต้ม เป็นเมนูอาหารเช้าที่อบอุ่นและช่วยให้ร่างกายอบอุ่น

ประโยชน์ของ “ขิง” ต่อสุขภาพ

  • ช่วยระบบย่อยอาหาร: ขิงช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ
  • ลดการอักเสบ: ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
  • เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน: ช่วยป้องกันหวัดและโรคติดเชื้ออื่นๆ
  • มีสารต้านอนุมูลอิสระ: ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์

 

เคล็ดลับการเลือกและใช้ขิง
  • เลือกขิงสด: ขิงสดจะมีกลิ่นหอมและรสชาติเผ็ดร้อน
  • ขิงแก่: ขิงแก่จะมีรสชาติเผ็ดร้อนมากกว่าขิงอ่อน
  • ขิงดอง: ขิงดองสามารถนำมาใช้ปรุงอาหารได้หลากหลายเมนู
  • ขิงผง: สะดวกในการใช้งาน เหมาะสำหรับนำไปผสมกับอาหารหรือเครื่องดื่ม

*ขิงผง นับเป็นอีกหนึ่งรูปแบบของขิงที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เนื่องจากมีความสะดวกในการใช้งานและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย ทั้งในด้านการปรุงอาหารและการทำเครื่องดื่ม ซึ่งแตกต่างจากขิงสดที่ต้องเสียเวลาในการเตรียมและอาจมีเศษขิงติดอยู่บ้าง ขิงผงจึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบในปัจจุบัน

ทำไมขิงผงจึงเป็นที่นิยม?
  • สะดวกในการใช้งาน: ขิงผงบรรจุอยู่ในภาชนะปิดสนิท ทำให้สามารถเก็บรักษาได้นานและง่ายต่อการพกพาไปใช้งานนอกบ้าน 
  • ง่ายต่อการควบคุมปริมาณ: การใช้ขิงผงทำให้สามารถควบคุมปริมาณของขิงที่ใส่ลงไปในอาหารหรือเครื่องดื่มได้อย่างแม่นยำ
  • รสชาติเข้มข้น: ขิงผงผ่านการอบแห้งและบดละเอียด ทำให้มีรสชาติที่เข้มข้นและหอมชื่นใจมากกว่าขิงสด
  • อายุการเก็บรักษานาน: ขิงผงสามารถเก็บรักษาได้นานกว่าขิงสด ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการเสียของ

เริ่มต้นวันใหม่ด้วยอาหารเช้าที่มีประโยชน์และอร่อยกับเมนูขิงกันนะคะ

สำหรับผลิตภัณฑ์จินเจน สามารถเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ shop.gingen.com

“ขิง” ดีต่อภูมิ! ดีต่อใจ! ห่างไกลหวัด

“ขิง” ดีต่อภูมิ! ดีต่อใจ! ห่างไกลหวัด

ขิง สมุนไพรไทยที่อยู่คู่คนไทยมาช้านาน นอกจากจะมีรสชาติเผ็ดร้อนที่ช่วยเพิ่มรสชาติให้กับอาหารแล้ว ขิงยังมีสรรพคุณทางยาที่น่าสนใจมากมาย โดยเฉพาะการช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง ป้องกันหวัด และโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ทำให้เรารู้สึกสดชื่นและมีสุขภาพที่ดี

ทำไมขิงถึงดีต่อสุขภาพ?

  • เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน: ขิงมีสารสำคัญชื่อ จินเจอรอล ซึ่งมีฤทธิ์ในการต้านการอักเสบ ช่วยลดอาการเจ็บคอและบรรเทาอาการหวัดได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ขิงยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหาย
  • ลดอาการอักเสบ: ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
  • ช่วยระบบย่อยอาหาร: ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ
  • บรรเทาอาการหวัด: ช่วยลดอาการเจ็บคอ น้ำมูกไหล
  • ลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง: เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน
  • ลดความเครียด: กลิ่นหอมของขิงช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียด

เมนูขิงง่ายๆ ที่ทำเองได้ที่บ้าน

  • น้ำขิงร้อน: ชงขิงสดกับน้ำร้อน ดื่มอุ่นๆ ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น
  • ขิงมะนาว: เพิ่มความสดชื่นด้วยน้ำมะนาวและน้ำผึ้ง
  • ขิงผัดไข่: เมนูง่ายๆ อร่อย และมีประโยชน์
  • โจ๊กขิง: โจ๊กอุ่นๆ โรยด้วยขิงซอย
  • ชาขิง: ชงชาผสมกับขิงซอยเล็กน้อย

“ขิง” ดีต่อใจอย่างไร?

นอกจากดีต่อสุขภาพกายแล้ว ขิงยังมีส่วนช่วยในเรื่องสุขภาพใจด้วยนะคะ กลิ่นหอมของขิงช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียด ทำให้เรามีอารมณ์ที่ดีขึ้น การได้ทำอาหารที่มีส่วนผสมของขิง ก็เป็นการสร้างสรรค์และผ่อนคลายไปในตัว

 

ขิงเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพทั้งกายและใจ การนำขิงมาใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการนำมาประกอบอาหาร หรือดื่มเป็นชา ก็เป็นวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยให้เรามีสุขภาพที่ดี ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ และมีความสุขกับชีวิตมากยิ่งขึ้น

สำหรับผลิตภัณฑ์จินเจน สามารถเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ shop.gingen.com

ขิงสุดยอดสมุนไพร! 3 สูตรอาหารเสริมภูมิคุ้มกัน ทานง่ายได้ทุกวัย

ขิงสุดยอดสมุนไพร! 3 สูตรอาหารเสริมภูมิคุ้มกัน ทานง่ายได้ทุกวัย

ในยุคที่โรคภัยไข้เจ็บมารุมเร้า การมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง “ขิง” สมุนไพรไทยที่หาซื้อง่ายและมีสรรพคุณมากมาย นับเป็นตัวช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงได้เป็นอย่างดี วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับ 3 สูตรอาหารจากขิง ที่ทำง่าย อร่อย และมีประโยชน์ต่อสุขภาพกันค่ะ

แต่ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าทำไมขิงถึงช่วยเสริมภูมิคุ้มกันได้?

ขิงมีสารสำคัญหลายชนิดที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เช่น จินเจอรอล (Gingerol) ซึ่งมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยลดอาการเจ็บคอและบรรเทาอาการหวัด นอกจากนี้ ขิงยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหาย และช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น

3 สูตรอาหารจากขิง ที่ทำง่าย ได้ประโยชน์ เสริมภูมิคุ้มกันไปเต็มๆ 

1. น้ำขิงมะนาว: น้ำขิงมะนาวช่วยดับกระหายคลายร้อน บรรเทาอาการหวัด และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้เป็นอย่างดี วิธีทำก็ง่าย เพียงนำขิงสดมาขูดแล้วชงกับน้ำร้อน เติมน้ำมะนาวและน้ำผึ้งเล็กน้อย ก็พร้อมดื่มได้ทันที

หรือเพื่อความสะดวกมากขึ้น เราสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ ขิงผงสำเร็จรูปจินเจนมาทดแทนขิงสดได้ ซึ่งมีหลากหลายรสชาติให้เลือก เช่น จินเจนขิง 100% ไม่มีน้ำตาล เป็นต้น

2. ขิงผัดไข่: เมนูง่ายๆ ที่หาทานได้ตามร้านอาหารทั่วไป แต่หากทำเองที่บ้านจะได้ความสดใหม่และควบคุมปริมาณวัตถุดิบได้เอง เพียงแค่ผัดขิงกับไข่จนสุกหอม โดยจะใส่เนื้อสัตว์หรือใบผักลงไปผัดเพิ่มด้วยก็ได้ตามใจชอบ แค่นี้ก็ได้เมนูอร่อยที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร

และเช่นเดียวกัน ถ้าอยากจะเพิ่มรสชาติความเผ็ด และความหอมของขิงไปอีกก็สามารถโรย จินเจน ขิง 100% ไม่มีน้ำตาลไปอีกหน่อยหลังปรุงเสร็จแล้วหรือก่อนเสิร์ฟก็ได้เช่นกันค่ะ

3. ขิงดอง: ขิงดองนอกจากจะเป็นเครื่องเคียงที่อร่อยแล้ว ยังมีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น วิธีทำขิงดองก็ไม่ยาก เพียงล้างขิงให้สะอาด ปอกเปลือก และหั่นเป็นแผ่นบางๆ นำขิงที่หั่นไว้แช่ในน้ำเกลือ (เกลือ 1 ช้อนโต๊ะต่อน้ำเปล่า 1 ถ้วย) เป็นเวลา 1 ชั่วโมง จากนั้นล้างขิงด้วยน้ำสะอาดแล้วสะเด็ดน้ำ จากนั้นเตรียมทำน้ำดองโดยผสมน้ำส้มสายชู น้ำตาลทราย และน้ำเปล่า (น้ำเปล่าครึ่งถ้วย) เข้าด้วยกัน แล้วนำไปตั้งไฟกลาง คนให้เข้ากันจนน้ำตาลละลายดี และน้ำส้มสายชูร้อน (ไม่ต้องเดือด) แล้วนำขิงที่สะเด็ดน้ำแล้วใส่ลงในภาชนะที่สะอาด จากนั้นเทน้ำดองที่เตรียมไว้ลงไปให้ท่วมขิง ปิดฝาภาชนะ แล้วเก็บไว้ในตู้เย็นอย่างน้อย 1 คืนหรือ 24 ชั่วโมงก่อนทาน เพียงเท่านี้ขิงดองก็พร้อมเสิร์ฟเป็นเครื่องเคียงกับอาหารจานหลักตามที่ชอบได้เลยค่ะ

ประโยชน์ของการทานขิงเป็นประจำ

  • เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน: ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ป้องกันการติดเชื้อ
  • ลดอาการอักเสบ: บรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
  • ช่วยระบบย่อยอาหาร: ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ
  • บรรเทาอาการหวัด: ช่วยลดอาการเจ็บคอ น้ำมูกไหล
  • ลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง: เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน

สำหรับผลิตภัณฑ์จินเจน สามารถเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ shop.gingen.com