“ขิงน้ำผึ้งมะนาว” เครื่องดื่มสุขภาพที่ดีต่อระบบย่อยอาหาร

“ขิงน้ำผึ้งมะนาว” เครื่องดื่มสุขภาพที่ดีต่อระบบย่อยอาหาร

“ขิงน้ำผึ้งมะนาว” เครื่องดื่มสุขภาพที่ดีต่อระบบย่อยอาหาร เต็มไปด้วยประโยชน์จากขิง

สรรพคุณของเครื่องดื่มขิงน้ำผึ้งมะนาว

  • ระบบย่อยอาหาร: ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียด แน่นท้อง
  • ลดอาการคลื่นไส้อาเจียน: ช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียนที่เกิดจากการเดินทาง หรือการตั้งครรภ์
  • บรรเทาอาการปวดประจำเดือน: ช่วยลดอาการปวดเกร็งและอักเสบที่เกิดจากประจำเดือน
  • ลดการอักเสบ: ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย ลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังต่างๆ
  • เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน: ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรง ป้องกันโรคหวัด
  • ช่วยลดน้ำหนัก: ช่วยเร่งการเผาผลาญ และช่วยลดความอยากอาหาร
  • บรรเทาอาการหวัด: ช่วยลดอาการคัดจมูก ไข้ และเจ็บคอ
  • สุขภาพผิว: ช่วยลดการอักเสบของผิวหนัง และทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง

มาดูวิธีการทำ ขิงน้ำผึ้งมะนาวกันเลย

วัตถุดิบ:

ขิงสด 1 ชิ้น

น้ำเปล่า 1 แก้ว

มะนาว 1/2 ลูก (หรือปรับตามชอบ)

น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา (หรือปรับตามชอบ)

วิธีทำ:

ล้างขิงสดให้สะอาด ปอกเปลือกแล้วหั่นเป็นชิ้นบางๆ ใส่ขิงลงในแก้ว เทน้ำเปล่าร้อนลงไป แล้วบีบน้ำมะนาว จากนั้นเติมน้ำผึ้งลงไปคนให้เข้ากัน ทิ้งไว้ให้เย็นเล็กน้อย และดื่มหลังมื้ออาหาร

เคล็ดลับ: สามารถเพิ่มวัตถุดิบอื่นๆ ลงไปได้ เช่น แอปเปิล กล้วย หรือแตงกวา


นอกจากนี้ยัง
สำหรับท่านที่ต้องการรับประทานขิงเพื่อช่วยเรื่องระบบย่อยอาหาร ปัจจุบันสามารถบริโภคขิงผงสำเร็จรูปทดแทนได้โดยจะเลือกแบบไม่มีน้ำตาล เช่น จินเจน ขิง 100% ไม่มีน้ำตาล หรือเลือกรสชาติอื่นๆตามต้องการก็ได้เช่นกันค่ะ

สำหรับผลิตภัณฑ์จินเจน สามารถเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ shop.gingen.com

ระบบย่อยดี สุขภาพดีตาม

ระบบย่อยดี สุขภาพดีตาม

“ขิง” ตัวช่วยระบบย่อยอาหารให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

ระบบย่อยอาหาร เปรียบเสมือนโรงงานที่เปลี่ยนอาหารที่เรากินเข้าไป ให้กลายเป็นสารอาหารที่ร่างกายดูดซึมและนำไปใช้ เมื่อระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี ร่างกายของเราก็จะได้รับสารอาหารครบถ้วน ส่งผลต่อสุขภาพที่ดี


แล้วจะทำอย่างไรให้ระบบย่อยอาหารของเราทำงานได้ดี?

1. ทานอาหารที่มีประโยชน์

เลือกทานผัก ผลไม้ ธัญพืช และโปรตีนทานอาหารที่มีกากใยสูง

หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป อาหารที่มีไขมันสูง และอาหารรสจัด


2. ทานอาหารตรงเวลา

ทานอาหาร 3 มื้อหลัก และ 2 มื้อว่าง ไม่ควรอดมื้อกินมื้อ ทานอาหารช้าๆ เคี้ยวอาหารให้ละเอียด

3. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

ดื่มน้ำเปล่า 8 แก้วต่อวัน ดื่มน้ำก่อนทานอาหาร 30 นาที

หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำหลังทานอาหารทันที

4. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

ออกกำลังกาย 30 นาที 5 วันต่อสัปดาห์

เลือกกิจกรรมที่เหมาะกับตัวเอง การออกกำลังกายช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร

5. ลดความเครียด

หาวิธีผ่อนคลายความเครียด

นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

ฝึกสมาธิ

6. ทานขิง

ขิงเป็นสมุนไพรธรรมชาติที่มีสรรพคุณมากมาย หนึ่งในนั้นคือช่วยย่อยอาหาร ขิงมีสารประกอบที่เรียกว่า “จินเจอรอล” (Gingerol) ซึ่งมีฤทธิ์กระตุ้นการหลั่งน้ำย่อยอาหาร ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ


ประโยชน์ของขิงต่อระบบย่อยอาหาร:

ช่วยย่อยอาหาร แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ บรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียน ลดกรดในกระเพาะอาหาร แก้ปัญหาลำไส้แปรปรวน ขับลมในกระเพาะอาหาร

สำหรับท่านที่ต้องการรับประทานขิงเพื่อช่วยเรื่องระบบย่อยอาหาร ปัจจุบันสามารถบริโภคขิงผงสำเร็จรูปทดแทนได้ โดยจะเลือกแบบไม่มีน้ำตาล เช่น จินเจน ขิง 100% ไม่มีน้ำตาล หรือเลือกรสชาติอื่นๆตามต้องการ

สำหรับผลิตภัณฑ์จินเจน สามารถเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ shop.gingen.com

DIY Ginger Ale สูตรเด็ด ทำเองได้ง่ายๆ ดีต่อสุขภาพ

DIY Ginger Ale สูตรเด็ด ทำเองได้ง่ายๆ ดีต่อสุขภาพ

เบื่อ Ginger Ale แบบเดิมๆ ที่เต็มไปด้วยน้ำตาลและโซเดียม? ลองมาทำ Ginger Ale สูตรโฮมเมดเองกันดีกว่า!

สูตรนี้ไม่เพียงแต่จะอร่อยสดชื่น แต่ยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย เพราะเราสามารถควบคุมปริมาณน้ำตาลและวัตถุดิบอื่นๆ ได้เองตามใจชอบ

ทำไมต้อง Ginger Ale โฮมเมด?

  • อร่อย สุขภาพดี: ปราศจากสารกันบูด สีผสมอาหาร และน้ำตาลส่วนเกิน
  • ปรับสูตรได้เอง: ปรับรสชาติให้หวานน้อย หวานมาก หรือใส่ส่วนผสมอื่นๆ เพิ่มเติมได้ตามชอบ
  • ประหยัดค่าใช้จ่าย: วัตถุดิบหาซื้อง่าย ราคาไม่แพง ทำเองได้ที่บ้าน
  • สนุกกับการทำอาหาร: การทำเครื่องดื่มเองเป็นกิจกรรมที่สนุกและผ่อนคลาย

วัตถุดิบที่ต้องเตรียม

  • ขิงแก่ 1 แว่น (ประมาณ 5 เซนติเมตร)
  • น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง
  • น้ำมะนาว 1/4 ถ้วยตวง
  • น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ (หรือตามชอบ)
  • เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
  • โซดา (ไม่จำเป็น)
  • ใบสะระแหน่ (สำหรับตกแต่ง)

อุปกรณ์ที่ต้องใช้

  • หม้อ
  • ที่กรอง
  • เหยือก
  • แก้ว
  • มีด

วิธีทำ

  1. เตรียมขิง: ล้างขิงให้สะอาด หั่นเป็นแว่นบางๆ
  2. ต้มขิง: นำน้ำเปล่าใส่หม้อตั้งไฟให้เดือด ใส่ขิงลงไป ต้มต่ออีก 5 นาที เพื่อให้น้ำขิงได้ที่
  3. พักน้ำขิง: ปิดไฟแล้วปล่อยให้น้ำขิงเย็นลง
  4. กรอง: กรองน้ำขิงออกจากกาก ใส่ลงในเหยือก
  5. ปรุงรส: เติมน้ำมะนาว น้ำผึ้ง และเกลือลงในเหยือก คนให้เข้ากัน ชิมรสชาติ ปรับปริมาณน้ำผึ้งและเกลือตามชอบ
  6. เพิ่มความซ่า: ถ้าต้องการให้มีฟอง สามารถเติมโซดาลงไปได้
  7. เสิร์ฟ: เท Ginger Ale ลงในแก้วใส่น้ำแข็ง ตกแต่งด้วยใบสะระแหน่ พร้อมดื่ม

Tips สำหรับการทำ Ginger Ale

  • เลือกขิง: ขิงแก่จะมีรสชาติเผ็ดร้อนกว่าขิงอ่อน *สามารถใช้ขิงผงสำเร็จรูปจินเจน รสยอดนิยมผสมน้ำผึ้ง ทดแทนขิงสดได้
  • ปรับระดับความเผ็ด: ถ้าต้องการรสเผ็ดมากขึ้น สามารถเพิ่มปริมาณขิงได้ หรือจะใช้ขิงผงสำเร็จรูปก็ได้
  • ความหวาน: ปรับปริมาณน้ำผึ้งตามความชอบ ถ้าต้องการความหวานน้อยลง สามารถใช้น้ำตาลทรายแดงแทน หรือใช้สารให้ความหวานจากธรรมชาติอื่นๆ เช่น หญ้าหวาน
  • ความเปรี้ยว: ปรับปริมาณน้ำมะนาวตามความชอบ ถ้าชอบรสเปรี้ยวมากขึ้น สามารถเพิ่มปริมาณน้ำมะนาวได้
  • ความเค็ม: เกลือช่วยเสริมรสชาติให้กลมกล่อม แต่ควรใส่ในปริมาณที่พอเหมาะ
  • เพิ่มรสชาติ: สามารถเพิ่มส่วนผสมอื่นๆ ลงไปใน Ginger Ale ได้ เช่น มิ้นต์ เลมอน ตะไคร้ หรือผลไม้ต่างๆ เพื่อเพิ่มความหลากหลายของรสชาติ
  • การเก็บรักษา: เก็บ Ginger Ale ที่ทำเองไว้ในตู้เย็น สามารถดื่มได้ภายใน 3-4 วัน

ประโยชน์ของขิงต่อสุขภาพ

  • ช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียน: ขิงมีสรรพคุณในการบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียน ซึ่งเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การตั้งครรภ์ การเดินทาง หรือการเจ็บป่วย
  • ลดอาการอักเสบ: ขิงมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยลดอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย
  • ช่วยย่อยอาหาร: ขิงช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร ทำให้รู้สึกสบายท้อง
  • ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ: ขิงช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและความดันโลหิต
  • เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน: ขิงมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
  • ผ่อนคลายความเครียด: กลิ่นหอมของขิงช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและลดความเครียด

สูตรเพิ่มเติม

  • Ginger Ale พริกไทยดำ: เพิ่มพริกไทยดำบดเล็กน้อยลงไป เพื่อเพิ่มความเผ็ดร้อนและกลิ่นหอม
  • Ginger Ale มะนาว: เพิ่มเปลือกมะนาวขูดลงไป เพื่อเพิ่มความหอมสดชื่น
  • Ginger Ale แตงโม: เพิ่มแตงโมปั่นลงไป เพื่อเพิ่มความหวานและความสดชื่น

ลองนำสูตร Ginger Ale โฮมเมดนี้ไปทำตามกันดูนะคะ รับรองว่าคุณจะได้เครื่องดื่มที่อร่อย สุขภาพดี และสดชื่น ดื่มได้ทุกเมื่อที่ต้องการ

คำแนะนำเพิ่มเติม

  • เลือกน้ำผึ้งแท้: น้ำผึ้งแท้มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่าน้ำตาล
  • ปรับสูตรให้เหมาะกับตัวเอง: ลองปรับเปลี่ยนสูตรตามความชอบของคุณเอง เพื่อให้ได้รสชาติที่ถูกปากที่สุด
  • ใช้ขิงผงสำเร็จรูป: เพื่อความสะดวกมากขึ้น สามารถใช้ขิงผงสำเร็จรูปแทนขิงสดได้ เช่น จินเจน ขิง 100% ไม่มีน้ำตาล  เป็นต้น

สำหรับผลิตภัณฑ์จินเจน สามารถเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ shop.gingen.com

ทำไมควรดื่มน้ำขิงหลังมื้ออาหาร

ดื่มน้ำขิงหลังมื้ออาหาร ดีต่อสุขภาพอย่างไร?

รู้หรือไม่ว่า? น้ำขิงร้อนๆ แก้วนึงหลังมื้ออาหารมีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าที่คิด!

1. ช่วยย่อยอาหาร: ขิงมีสารประกอบที่ช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย

ขิง: สมุนไพรที่มีสรรพคุณอันหลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการช่วยระบบย่อยอาหาร ขิงมีสารประกอบสำคัญที่ชื่อว่า จินเจอรอล (Gingerol) ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์เผ็ดร้อนและมีคุณสมบัติในการกระตุ้นการหลั่งน้ำย่อยในกระเพาะอาหารและลำไส้ ทำให้ร่างกายสามารถย่อยอาหารได้ดีขึ้น ลดอาการไม่สบายต่างๆ ที่เกิดจากระบบย่อยอาหารทำงานไม่เป็นปกติ

2. ลดอาการคลื่นไส้อาเจียน: ขิงมีประสิทธิภาพในการลดอาการคลื่นไส้อาเจียนจากหลายสาเหตุ เช่น อาการเมาหลังอาหาร

ทำไมขิงถึงช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียนได้?

  • สารสำคัญในขิง: จินเจอรอล (Gingerol) และโชกาออล (Shogaol) เป็นสารสำคัญในขิงที่มีฤทธิ์ช่วยยับยั้งการทำงานของสารสื่อประสาทที่ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ นอกจากนี้ ยังช่วยกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ ทำให้อาหารเคลื่อนที่ผ่านระบบทางเดินอาหารได้ดีขึ้น ลดอาการคลื่นไส้และอาเจียน
  • ลดการอักเสบ: ขิงมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยลดการระคายเคืองในกระเพาะอาหารและลำไส้ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้
  • ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ: ขิงช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อในระบบทางเดินอาหาร ทำให้ลดอาการปวดเกร็งและคลื่นไส้

3. ดีต่อระบบเผาผลาญ: ขิงช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญ ช่วยให้เผาผลาญพลังงานได้มากขึ้น

ทำไมขิงถึงช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญได้?

  • จินเจอรอล (Gingerol) และโชกาออล (Shogaol): สารสำคัญในขิงสองชนิดนี้ มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มอุณหภูมิภายในร่างกายเล็กน้อย เมื่อร่างกายมีความร้อนเพิ่มขึ้น ระบบเผาผลาญก็จะทำงานมากขึ้นตามไปด้วย ทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้มากขึ้น
  • กระตุ้นการทำงานของต่อมไทรอยด์: ต่อมไทรอยด์เป็นต่อมสำคัญที่ควบคุมการเผาผลาญของร่างกาย การศึกษาบางชิ้นชี้ให้เห็นว่า ขิงอาจมีส่วนช่วยกระตุ้นการทำงานของต่อมไทรอยด์ ทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้มากขึ้น
  • เพิ่มการดูดซึมสารอาหาร: ขิงช่วยเพิ่มการดูดซึมสารอาหารจากอาหาร ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาระบบเผาผลาญให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ลดการอักเสบ: การอักเสบเรื้อรังสามารถทำลายเซลล์และอวัยวะต่างๆ รวมถึงเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับการเผาผลาญพลังงาน ขิงมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย ทำให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ดีขึ้น

4. ขิงขับลม ช่วยให้สบายท้อง: ขิงมีสรรพคุณช่วยขับลม เมื่อมีอาการแน่นท้อง แถมยังช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายสบายท้องด้วย

ทำไมขิงถึงช่วยขับลมได้?

  • ขิงมีสารสำคัญที่ช่วยขับลม เช่น จินเจอรอล (Gingerol) และ โชกาออล (Shogaol)
  • สารเหล่านี้มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร
  • ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อในลำไส้ ทำให้การเคลื่อนที่ของลมในทางเดินอาหารดีขึ้น
  • ลดการเกิดแก๊สและอาการท้องอืด
  • กระตุ้นการหลั่งของน้ำย่อยและน้ำดี ส่งเสริมกระบวนการย่อยอาหารให้ราบรื่น

สัมผัสรสชาติขิงแท้กับจินเจน ที่คัดสรรขิงมาอย่างพิถีพิถัน พร้อมดื่มด่ำกับความหอมละมุนและรสชาติอันล้ำลึก มอบความสดชื่นและกลมกล่อมทุกครั้งที่ดื่ม

สำหรับผลิตภัณฑ์จินเจน สามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ shop.gingen.com