กฏเหล็ก 11 อ. สูงวัยแบบ STRONG!

เมื่อเราหรือคนใกล้ชิดอายุมากขึ้น สภาพร่างกายย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา แต่จะเสื่อมถอยลงมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองและการใช้ชีวิตของแต่ละคนนะจ้ะ

วันนี้ป้าเจนจะมาชวนให้เริ่มดูแลตัวเองด้วยหลัก 11 อ. ที่จะช่วยให้ผู้สูงวัยทั้งหลายสตรองขึ้น พร้อมกันเลยจ้า ❤

1. อาหาร

เมื่อสูงวัยขึ้น ยิ่งต้องเอาใจใส่ดูแลเรื่องอาหารเป็นพิเศษนะคะ เพราะเป็นวัยที่มีการเสื่อมถอยของระบบย่อยอาหาร และการทำงานของอวัยวะทุกส่วน ดังนั้น การลดปริมาณอาหารลง แล้วทานให้ครบ 5 หมู่ เน้นผักผลไม้ จะดีต่อร่างกายและอารมณ์มากเลยค่ะ 

2. อากาศ

อะไรจะดีไปกว่าการได้สูดอากาศสดชื่นในสวนสาธารณะในวันหยุด?  เพราะอากาศบริสุทธิ์ช่วยฟอกเลือดและนำออกซิเจนไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ในร่างกายให้ทำงานเป็นปกติ และการได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีทุกวัน ยังส่งผลให้อารมณ์แจ่มใส สุขภาพแข็งแรงอายุยืนยาวอีกด้วยนะคะ

3. ออกกำลังกาย

ผู้สูงอายุควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอทุกวัน หรืออย่างน้อยสัปดาห์ 3 ครั้ง (ครั้งละประมาณ 30 นาที)

การออกกำลังกายที่ถูกต้องเหมาะสม จะช่วยชะลอความเสื่อมโทรมของร่างกายให้แข็งแรงขึ้น และยังมีผลต่อกระดูกอย่างเห็นได้ชัด

กระดูกในผู้สูงอายุจะมีสารแคลเซี่ยมลดลง (osteoporosis) ทำให้เนื้อกระดูกบางลง แต่ถ้าผู้สูงอายุมีการออกกำลังอยู่เสมอ พบว่าจะไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องนี้

4. อนามัย

ผู้สูงอายุควรสังเกตอาการผิดปกติของร่างกาย และจิตใจอยู่เสมอ ถ้าพบความผิดความปกติในระยะเริ่มต้น จะทำให้การรักษาได้ผลดีและง่ายขึ้นอีกด้วย

5. อาทิตย์

การรับแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้า (อย่างน้อยวันละ 30 นาที) ช่วยป้องกันและซะลอการเกิดโรคกระดูกพรุนได้ “วิตามินดี” แสงแดด ยังสามารถป้องกันโรคซึมเศร้า เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ฮอร์โมน กล้ามเนื้อให้แข็งแรงได้อีกด้วยนะคะ

6. อารมณ์

การทำสมาธิ หรือโยคะ ส่งผลต่ออารมณ์ที่สงบนิ่ง ช่วยฝึกสติให้สามารถควบคุมอารมณ์ได้ และเกิดอาการผ่อนคลาย

เมื่ออารมณ์ดี มีการยิ้มหรือหัวเราะ ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนเอ็นโดฟีนแห่ง “ความสุข” ซึ่งช่วยให้สามารถต่อสู้กับความกลัว ความเครียดวิตกกังวล และกระตุ้นระบบย่อยอาหารให้ทำงานดีขึ้น การไหลเวียนโลหิต และร่างกายโดยรวมดีขึ้นอีกด้วยนะคะ

7. อดิเรก

งานฝีมือ ปลูกต้นไม้ เต้นลีลาศ ทำอาหาร ร้องเพลง หรือเป็นอาสาสมัครเพื่อสังคม เป็นงานอดิเรกที่น่าสนใจสำหรับผู้สูงอายุได้อย่างดี ผู้สูงอายุควรหางานอดิเรกทำในวันว่าง เพื่อใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์และยังช่วยให้รู้สึกมีคุณค่า ภูมิใจในตัวเองอีกด้วย

ลองมองหาสิ่งที่ตัวเองอยากทำรักและชอบดูนะคะ ^^

8. อบอุ่น

การฝึกบุคลิกให้เป็นคนโอบอ้อมอารี มีน้ำใจต่อคนรอบข้าง เป็นพลังที่ช่วยให้คนอยากเข้าใกล้ รู้สึกมีความสุขและอบอุ่นใจได้อย่างดีเลยค่ะ

รู้แล้ว อย่าลืมให้การช่วยเหลือสมาชิกในครอบครัวและคนอื่นๆ ดู รับรองว่าจะได้มิตรภาพที่ดีกลับคืนมาอย่างแน่นอนค่ะ 

9. อุจจาระ / ปัสสาวะ

เรื่องการขับถ่ายของผู้สูงอายุเป็นสิ่งสำคัญเพราะอยู่ในชีวิตประจำวัน บางรายเกิดปัญหาถ่ายยาก หรือไม่สามารถกลั้นปัสสาวะเองได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้มีสารพิษตกค้างในร่างกายได้ง่ายๆ การป้องกันที่ดีที่สุด คือฝึกทานผักผลไม้ให้เป็นนิสัย รวมถึงดื่มน้ำสะอาดให้มากๆ จะช่วยให้ระบบร่างกายภายในดีขึ้นได้

*ผู้หญิงสูงวัยหลายคนมีปัญหาการกลั้นปัสสาวะ หลายคนจึงไม่ชอบดื่มน้ำ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำนะคะ

10. อุบัติเหตุ

ผู้สูงอายุที่มีปัญหาด้านสายตาสั้นยาว หรือหูผิดปกติ มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายๆ จึงควรระมัดระวังการใช้ชีวิตเป็นพิเศษ

หากพบว่ามีความผิดปกติทางร่างกาย ควรหาทางแก้โดยด่วนค่ะ เช่น สายตายาวควรใส่แว่นสายตา รวมถึงดูแลสภาพแวดล้อมในบ้านให้ปลอดภัย มีแสงสว่างพอเหมาะ พื้นไม่ลื่น มีราวจับบริเวณบันไดและห้องน้ำ เป็นต้น

11. อนาคต

เมื่อเริ่มมีอายุมากขึ้น ควรมีการวางแผนคิดถึงอนาคตไว้ด้วย การเข้าร่วมสังคมกลุ่มต่างๆ หรือมีเพื่อนรุ่นเดียวกัน จะทำให้มีความอบอุ่นไม่เหงาใจ และรู้สึกถึงคุณค่าของตนเอง

รวมถึงวางแผนสำหรับการเตรียมเงิน และที่อยู่อาศัย เพื่อเป็นหลักประกันในการดำเนินชีวิตในอนาคตได้อย่างดีเลยค่ะ

+สุขภาพดี ชีวิตดี มีความสุข+

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก สสส.

———————————————————

สามารถหาซื้อน้ำขิงจินเจนได้แล้วที่ shop.gingen.com
#Gingen #จินเจน
#ขิงผงจินเจน #ดื่มน้ำขิงดื่มจินเจน
#ดื่มดีมีประโยชน์ #ปรุงอาหารก็อร่อย

มาดูกันว่าขิงช่วยลดน้ำหนักได้ยังไง? (ตอนที่2)

นอกจากนั้นยังพบสาร Adiponectin ซึ่งช่วยลดระดับไขมันในเส้นเลือด ปรับความสมดุลของระดับน้ำตาลในเลือดได้อีกด้วย

ในแง่ของการขับถ่าย ขิงยังมีสรรพคุณช่วยให้การขับถ่ายของเราเป็นปกติ เมื่อระบบขับถ่ายดี การขนส่งของเสียในร่างกายไม่ติดขัด ร่างกายก็สามารถขับของเสียออกไปได้หมด โดยของเสียเหล่านั้นไม่ย้อนกลับไปทางเลือด ก็จะทำให้ระบบการย่อยอาหารของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น ลำไส้ใหญ่ทำงานได้เป็นปกติ ก็จะช่วยป้องกันปัญหาท้องผูก ไม่สะสมของเสียไว้ในร่างกาย ปัองกันอาการท้องป่องได้ เมื่อขับถ่ายดี น้ำหนักก็ลดลงได้ดีเช่นกัน

อีกทั้งขิงยังช่วยให้อุณหภูมิในร่างกายเหมาะสม ซึ่งอุณหภูมิในร่างกายของคนเราควรจะอยู่ที่ประมาณ 37 องศาเซลเซียส แต่หากอุณหภูมิในร่างกายของเราลดลงต่ำกว่า 37 จะทำระบบการย่อยหรือการเผาผลาญพลังงานไม่สมบูรณ์ ทำงานได้ไม่เต็มที่ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคต่างๆได้

สูตรน้ำขิงลดน้ำหนัก
สูตรที่ 1 – น้ำขิงร้อน ๆ จากขิงสด

ส่วนผสม:
ขิงสดบด หรือ ขิงผง
น้ำร้อน 1 แก้ว
มะนาว
น้ำผึ้ง

วิธีทำ:
นำขิงผงใส่ในน้ำร้อนแล้วคนให้เข้ากัน ฝานมะนาวบาง ๆ แช่ลงไปเติมน้ำผึ้งลง 1/2 ช้อนชา เพื่อรสชาติที่กลมกล่อมขึ้น สามารถเพิ่มปริมาณขิงได้หากอยากให้น้ำขิงเข้มข้นขึ้น

น้ำขิงสามารถดื่มได้ทุกวันซึ่งแนะนำเป็นช่วงเช้าเพราะจะได้ขับถ่ายได้ดี และเป็นการเตรียมร่างกายให้พร้อมในการเผาผลาญพลังงาน ดื่มบ่อย ๆจะช่วยลดน้ำหนักได้ดี เป็นการลดน้ำหนักง่ายๆโดยใช้สมุนไพรจากธรรมชาติ ไม่ต้องอดอาหาร ไม่ต้องกลัวผลค้างเคียง แถมยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย

อย่างไรก็ตามการบริโภคขิงก็ควรอยู่ในปริมาณที่เหมาะสมกับร่างกาย และควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ด้วยนะคะ เพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคนค่ะ

อ่าน: มาดูกันว่าขิงช่วยลดน้ำหนักได้ยังไง? (ตอนที่1)

———————————————————

สามารถหาซื้อน้ำขิงจินเจนได้แล้วที่ shop.gingen.com
#Gingen #จินเจน
#ขิงผงจินเจน #ดื่มน้ำขิงดื่มจินเจน
#ดื่มดีมีประโยชน์ #ปรุงอาหารก็อร่อย

มาดูกันว่าขิงช่วยลดน้ำหนักได้ยังไง? (ตอนที่1)

ขิงเป็นสมุนไพรที่ถูกนำมาใช้ในด้านสุขภาพและอาหารการกินอย่างแพร่หลาย ด้วยฤทธิ์ร้อนที่เป็นเอกลักษณ์และสรรพคุณทางยาที่มีมากมายของขิง ทำให้แม้แต่ในแพทย์แผนอายุรเวทก็ยังมีการนำขิงมาใช้ในกระบวนการรักษามาแล้วเป็นพันปี

และอีกสรรพคุณหนึ่งของขิงที่วันนี้เราจะมาคุยกันคือ สรรพคุณในการ “ช่วยลดน้ำหนัก” แต่ว่าขิงจะช่วยลดน้ำหนักได้ยังไงนั้น เราไปดูกันเลยค่ะ

มีการทดสอบผลของสรรพคุณเผาผลาญของ “ขิง” โดยสถาบันโภชนาการมนุษย์จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ประเทศสหรัฐอเมริกา มีผู้เข้าร่วมทำการทดลองดื่มน้ำขิงที่ใช้ขิงผงสำเร็จรูป 2 กรัม ละลายในน้ำ 1 แก้ว ดื่มหลังอาหาร ซึ่งเมื่อปล่อยให้กระบวนการเผาผลาญพลังงานทำงานไปจนครบ 6 ชั่วโมง นักวิจัยก็ทำการตรวจวัดค่าการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย ปรากฏว่าได้ผลดังนี้

พลังงานความร้อนที่เกิดขึ้นในขณะดูดซึม ย่อยอาหาร เพิ่มขึ้น 22.3 – 64.1 กิโลแคลอรี่ โดยเปรียบเทียบกับกลุ่มอาสาสมัครที่ไม่ได้ดื่มน้ำขิง นั่นหมายความว่าอาหารที่กินเข้าไปนั้น ไม่ได้ไปเพิ่มสะสม แต่สลายเป็นความร้อนเพิ่มขึ้นนั่นเอง

และยังพบด้วยว่า หลังจากดื่มน้ำขิงเข้าไปแล้ว ความอยากอาหารในแต่ละวันก็ลดน้อยลงด้วย จึงไม่ค่อยกินจุบจิบ และทานได้น้อยลงด้วย ทำให้โอกาสเป็นโรคอ้วนหรือน้ำหนักเพิ่มก็ลดน้อยลง

หากวิเคราะห์ในมุมสารประกอบในขิงนั้น ก็จะพบว่า มีสาร Gingerol และ Shogaol ที่ให้รสเผ็ดร้อน ช่วยเพิ่มอุณหภูมิร่างกาย เมื่อสารนี้เข้าสู่ร่างกายจะเข้าไปขยายผนังหลอดเลือดทำให้เลือดไหวเวียนได้ สะดวกยิ่งขึ้น ทำให้เผาผลาญไขมันได้มากขึ้น

รวมถึงฤทธิ์ร้อนของขิง ก็จะเข้าไปช่วยเผาผลาญพลังงานในร่างกาย ช่วยให้ร่างกายเผาผาญไกลโคเจน (glycogen depletion) ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานสะสมของร่างกายได้ดีขึ้น เมื่อเผาผลาญดีจึงมีส่วนช่วยลดความอ้วนได้ดีมากขึ้น

อ่านต่อ: มาดูกันว่าขิงช่วยลดน้ำหนักได้ยังไง? (ตอนที่2)

———————————————————

สามารถหาซื้อน้ำขิงจินเจนได้แล้วที่ shop.gingen.com
#Gingen #จินเจน
#ขิงผงจินเจน #ดื่มน้ำขิงดื่มจินเจน
#ดื่มดีมีประโยชน์ #ปรุงอาหารก็อร่อย

“ภาวะตัวเย็น” ต้นเหตุของโรคร้ายที่อันตรายถึงชีวิต!

วันนี้ป้าเจนจะมาบอกสาเหตุและวิธีป้องกันภาวะตัวเย็น เพื่อให้ทุกคนได้เอาไปดูแลตัวเองและคนรอบข้างนะคะ

ภาวะตัวเย็น (Hypothermia) คือ ภาวะที่ร่างกายมีอุณหภูมิต่ำกว่า 35 องศาเซลเซียส (ปกติควรอยู่ที่ 36.2 – 36.3 องศาเซลเซียส) ส่งผลต่อการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคไข้หวัด ปอดบวม หลอดเลือดสมอง กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด และความดันโลหิตสูง

ผู้ที่อยู่ในภาวะตัวเย็น จะมีอาการไม่สบาย เหนื่อยล้า นอนหลับไม่สนิท เบื่ออาหาร ปวดเมื่อยไหล่ หรือ มือเท้าเย็น หากเป็นมากก็จะมีอาการหนาวสั่นมากผิดปกติ หายใจช้า พูดช้า สับสน

สาเหตุของภาวะตัวเย็น เกิดจากอาหารการกินและพฤติกรรมการกินเป็นสาเหตุหลัก โดยเฉพาะคนสมัยนี้ที่กินมากเกินความจำเป็น ร่างกายจึงต้องส่งเลือดไปหล่อเลี้ยงที่กระเพาะอาหารและลำไส้มากขึ้น เพื่อช่วยในกระบวนการย่อยและดูดซึมสารอาหาร ปริมาณเลือดที่เหลือไปหล่อเลี้ยงสมองและกล้ามเนื้อส่วนอื่นๆจึงลดน้อยลง อวัยวะที่ทำหน้าที่ส่วนใหญ่ในการผลิตความร้อนและรักษาอุณหภูมิ ในร่างกาย ได้แก่ กล้ามเนื้อ ตับ สมอง หัวใจ ก็ทำงานได้ไม่เต็มที่ ร่างกายจึงมีอุณหภูมิต่ำลง

อีกทั้งอาหารที่กินย่อยไม่หมด ทั้งสารอาหารประเภทโปรตีน ไขมัน และน้ำตาลที่เหลือจากการเผาผลาญก็จะกลายเป็นของเสียที่ทำให้เลือดสกปรก ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคมากมาย

ดังนั้นทางการแพทย์จึงแนะนำว่าอย่ากิน “อาหารฤทธิ์เย็น” มากจนเกินไป

“อาหารฤทธิ์เย็น” ที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อมีภาวะตัวเย็น ได้แก่ (หมวดเครื่องดื่ม) ชาเขียว กาแฟ เบียร์ น้ำมะนาว น้ำมะพร้าว สับปะรด

(หมวดผลไม้) กล้วย มะม่วง มะเขือเทศ
(หมวดผักใบเขียว) แตงกวา ผักบุ้ง ตำลึง ผักหวาน บวบ ฟัก วุ้นเส้น
(หมวดแป้งและน้ำตาล) ข้าวซ้อมมือ ข้าวกล้อง น้ำตาลทรายขาว ขนมปัง มายองเนส เนย เค้ก เป็นต้น

สาเหตุอื่นๆของภาวะตัวเย็น ได้แก่ การออกกำลังกายไม่เพียงพอ ความเครียด หรือจากการที่ร่างกายสัมผัสอุณภูมิเย็นมากเกินไปเป็นเวลานาน ซึ่งจะทำให้ร่างกายสูญเสียความร้อนเร็วกว่าที่ร่างกายผลิตได้ เมื่อร่างกายไม่สามารถสร้างความร้อนได้เพียงพอ อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้เลย หากไม้ได้รับการช่วยเหลือทางการแพทย์ที่ถูกต้อง

ภาวะตัวเย็นเป็น “ โรคของคนสมัยใหม่ และคาดว่าจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งโรคภัยไข้เจ็บที่สัมพันธ์กัน ก็จะเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย “ การรักษาความอบอุ่นของร่างกายอยู่เสมอเป็นวิธีการหลักในการเพื่อป้องกันภาวะตัวเย็น

อย่างไรก็ตาม ในผู้ที่มีภาวะตัวเย็นรุนแรง แพทย์จะทำการรักษาด้วยการให้สารน้ำอุ่นๆ ซึ่งมักจะเป็นน้ำเกลืออุ่นฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำ ในบางกรณี อาจมีการเพิ่มอุณหภูมิให้กับทางเดินหายใจ โดยการใช้หน้ากากหรือท่อใส่ทางจมูกเพื่อช่วยหายใจ ซึ่งก็สามารถช่วยรักษาอาการภาวะตัวเย็นได้เช่นกัน

“ขิง” จัดเป็นพืชสมุนไพรอันดับหนึ่งที่ช่วยขจัดภาวะตัวเย็น

สรรพคุณหนึ่งที่สำคัญของขิงก็คือช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกาย ทำให้เลือดไหลเวียนสะดวก ช่วยให้อวัยวะภายในทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยขับของเหลวส่วนเกินออกจากร่างกาย

นอกจากนี้ขิงยังจัดเป็นพืชสมุนไพรสารพัดประโยชน์ ที่ใช้กันมานานแต่โบราณ (อ่านประโยชน์ของขิงเพิ่มเติมได้ที่ http://bit.ly/32bEPQF)

ภาวะตัวเย็นจัดเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ ถ้าคุณหรือคนใกล้ชิดมีอาการที่สงสัยได้ว่าเป็นภาวะตัวเย็น ให้รีบโทรสายด่วน 1669 หรือรีบพาไปโรงพยาบาลทันทีนะคะ

ข้อมูล: pobpad.com, หนังสือเรื่อง สลิม สวย สมดุล ด้วยสูตรพลังแห่งขิง

———————————————————

สามารถหาซื้อน้ำขิงจินเจนได้แล้วที่ shop.gingen.com
#Gingen #จินเจน
#ขิงผงจินเจน #ดื่มน้ำขิงดื่มจินเจน
#ดื่มดีมีประโยชน์ #ปรุงอาหารก็อร่อย

5 สัญญาณเตือนโรคหลอดเลือดสมอง

รู้หรือไม่!! คนไทยป่วยและเสียชีวิตด้วยโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) เป็นอันดับ 1 ของประเทศ!!…การสังเกตอาการและหาหมอได้ทันท่วงที ก็จะช่วยลดความเสี่ยงลงได้
.
โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) หรือโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต คือภาวะที่สมองขาดเลือดไปเลี้ยง ทำให้สูญเสียการทำงานอย่างเฉียบพลัน เป็นสาเหตุความพิการและเสียชีวิตมากเป็นอันดับ 1 ของประเทศ…วันนี้ป้าเจนเลยเอา 5 สัญญาณเตือนของโรคหลอดเลือดสมองมาฝากกันค่ะ
.
1. ชาหรืออ่อนแรงใบหน้าซีกใดซีกหนึ่งอย่างฉับพลัน ทำให้มุมปากตก ปากเบี้ยว อมน้ำไม่อยู่ น้ำไหลออกจากมุมปาก


2. ชาหรืออ่อนแรงที่แขนขาซีกใดซีกหนึ่งอย่างฉับพลัน สูญเสียการทรงตัว

3. พูดไม่ชัด พูดไม่ออก สับสน นึกคำพูดไม่ออก

4. การมองเห็นมีปัญหาฉับพลัน อาจมองเห็นภาพซ้อน มองเห็นภาพครึ่งเดียว ตาบอดหนึ่งหรือสองข้าง

5. มีอาการปวดศีรษะรุนแรงฉับพลัน


ถ้าสังเกตตัวเองหรือพบใครที่มีอาการเหล่านี้ แนะนำว่าให้รีบพาไปพบแพทย์เลยนะคะ ถ้าไปได้เร็วโอกาสลดความรุนแรงของโรคก็จะมีมากขึ้นค่ะ
.
————————————

สามารถหาซื้อน้ำขิงจินเจนได้แล้วที่ www.gingen.com
#Gingen #จินเจน
#ขิงผงจินเจน #ดื่มน้ำขิงดื่มจินเจน
#ดื่มดีมีประโยชน์ #ปรุงอาหารก็อร่อย

สูตรลดน้ำหนักด้วยน้ำขิง ทำง่ายต้องลอง

ลดน้ำหนักมาหลายวิธีแล้ว🏃🏻‍♀️🏃🏻‍♂️
ทั้งกินคลีน ทั้งกินอาหารตามกรุ๊ปเลือด ทั้งไปฟิตเนส ทั้งโยคะร้อน แต่ผลลัพธ์ก็ยังไม่น่าพอใจ

ป้าเจนขอแนะนำวิธีลดในสไตล์ของป้า🙋🏻‍♀️

ลดน้ำหนักด้วย #น้ำขิง วิธีทำง่าย ทำตามได้แน่นอนป้าคอนเฟิร์ม👌🏻

———————
#GingenTH
#ป้าเจน
#ดื่มน้ำขิงดื่มจินเจน
#ขิงผงจินเจน
#ชงดื่มดีมีประโยชน์
#ปรุงอาหารก็อร่อย
www.gingen.com

8 อาหารแก้หวัด วันนี้ป้าเจนก็มีอาหารใกล้ตัวที่แก้หวัดได้มาฝาก

หน้าฝนแบบนี้หลายคนคงต้องลุยฝนกลับบ้าน ไม่ดีแน่ๆ เพราะอาจจะไม่สบายกันได้🤧

วันนี้ป้าเจนก็มีอาหารใกล้ตัวที่แก้หวัดได้มาฝาก รับรองว่าบรรเทาอาการได้จนหายแน่นอนค่ะ☺️


———————
#ป้าเจน
#GingenTH
#ดื่มน้ำขิงดื่มจินเจน
#ขิงผงจินเจน
#ชงดื่มดีมีประโยชน์
#ปรุงอาหารก็อร่อย
www.gingen.com

มองจอคอมฯ เล่นมือถือทั้งวัน ดวงตาของเราก็อ่อนล้าเป็นธรรมดา👀

วันนี้ป้าเจนมีวิธีบริหารดวงตามาฝาก
ทำเพียง 6 ขั้นตอนก็จะช่วยฟื้นฟูดวงตาอ่อนล้า ให้กลับมาสดใส พร้อมลุยงานต่อกันได้สบาย🥰

————————
#GingenTH
#ป้าเจน
#ขิงผงจินเจน
#ดื่มน้ำขิงดื่มจินเจน
#ชงดื่มดีมีประโยชน์
#ปรุงอาหารก็อร่อย
www.gingen.com
© ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ Thai health center

“วันนี้คุณสังเกตประจำเดือนของคุณแล้วหรือยัง?”

อย่าตกใจกับคำถามนี้ เพราะประจำเดือนของเราสามารถบ่งบอกโรคร้ายที่สาวๆ อาจจะเป็นได้😱

ป้าเจนอยากให้สาวๆ หันมาสนใจประจำเดือนของเรากันให้มากขึ้น เพราะหากเกิดการผิดปกติเหล่านี้บ่อยๆ ป้าแนะนำให้พบแพทย์ด่วน!

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Pobpad.com

———————————————————

สามารถหาซื้อน้ำขิงจินเจนได้แล้วที่ www.gingen.com
#Gingen #จินเจน
#ขิงผงจินเจน #ดื่มน้ำขิงดื่มจินเจน
#ดื่มดีมีประโยชน์ #ปรุงอาหารก็อร่อย

8 เคล็ดลับวิธีดูแลสุขภาพด้วยขิง

” แค่ปฎิบัติตามก็เห็นผล “
การดูแลสุขภาพด้วยขิงสูตรหมออิชิฮะระ ไม่ว่าใครก็ทำตามได้ทันที่และรอดูผลได้เลย ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับการใช้พลังขิงให้ได้ผลยิ่งขึ้น

ถ้าทำตามทั้ง 8 ข้อได้อย่างเคร่งครัดแล้วละก็ ไม่ว่าอาการ มือเท้าเย็น อาการปวดเมื่อย โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ โรคอ้วน อาการเหนื่อยล้า หรือปัญหาผิวพรรณก็จะบรรเทาลงหรือหายไปแล้ว ” สุภาพดีทั้งกายและใจ” ไปดูกันมีอะไรบ้าง

 

1. ดื่มชาขิงวันละ 3 – 6 ถ้วย

เพียงแค่ดื่มน้ำขิงวันละ 3 – 6 ถ้วย จะค่อยๆเห็นความเปลี่ยนแปลงในร่างกายจนต้องประหลาดใจ หากที่ผ่านมาคุณดื่มกาแฟจนเป็นนิสัย ลองเปลี่ยนมาดื่มน้ำขิงดูสิ ” คิดจะดื่มชา คิดถึงน้ำขิง”

2. การเติมน้ำตาลทรายแดงลงในน้ำขิงในปริมาณที่เหมาะสม รสหวานในน้ำตาลทรายแดงมีสรรพคุณทำให้ร่างกายอบอุ่น ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญพลังงาน ดังนั้น สำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนัก จะช่วยกระตุ้นการเผาผลาญและไขมันในร่างกายด้วย

3. หลังตื่นนอนตอนเช้า เป็นช่วงเวลาที่อุณหภูมิร่างกายต่ำที่สุด และอวัยะต่างๆยังตื่นตัวไม่เต็มที่ เมื่อดื่มน้ำขิงจะช่วยอุ่นเครื่อง และ ปรับอุณหภูมิร่างกายให้ค่อยๆสูงขึ้น นอกจากนั้นจะดื่มก่อนมื้ออาหารอื่นๆหรือตอนท้องว่าง จะช่วยป้องกันไม่ให้กินมากเกินไป หรือดื่มหลังอาหารจะช่่วยการย่อยและเผาผลาญ

4. ใช้ขิงที่บดเสร็จใหม่ๆ เพราะมีรสชาติดีกว่าและให้กลิ่นหอมจากน้ำมันหอมระเหย ถ้าวันไหนไม่มีเวลาอาจใช้ขิงผงแทนได้

5. นอกจากดื่มน้ำขิงเป็นประจำแล้ว ควรพยายามเติมขิงผงลงในอาหารแต่ละมื้อด้วย ลองเติมขิงบด หรือ ขิงผงลงในอาหาจำพวกซุป อาหารประเภทเส้น ต้มหรือตุ๋น ก็ได้รสชาติอร่อยไปอีกแบบ

6. สำหรับคนที่ดื่มน้ำเย็นเป็นประจำเพราะเชื่อว่า “ยิ่งดื่มมากก็ยิ่งช่วยให้เผาผลาญดีขึ้น” นั้น ควรเลิกพฤติกรรมนี้เสีย แล้วเปลี่ยนมาดื่มน้ำขิงแทน ถ้าดื่มน้ำขิงให้ร่างกายอบอุ่นอยู่เสมอ ร่างกายก็จะขจัดของเหลงและของเสียออกไปได้ สุขภาพก็จะแข็งแรง

7. การไม่กินมากเกินไปเป็นวิธีช่วยป้องกันไม่ให้ร่างกายเย็น และเป็นหนทางที่จะช่วยให้ห่างไกลโรคภัยไข้เจ็บทั้งหลาย จึงถือเป็นสุดยอดวิธีดูแลสุขภาพ หรืออาจจะลดปริมาณการกินลง หรือ งดอาหารเช้าจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายกำจัดของเสียออกมาได้ดียิ่งขึ้น การดื่มน้ำขิงในตอนเช้าสักถ้วยก็จะช่วยเติมพลังให้ร่างกายเพียงพอแล้ว

8. วิธีดูแลสุขภาพด้วยขิง ทำได้ง่ายและได้ผลทันที สะดวก ประหยัด สุขภาพดีขึ้น ทุกคนสามารถทำได้อย่างต่อเนื่อง ลองทำตามเคล็ดลับทั้งหมดนี้ต่อเนื่องอย่างน้อย 7 วัน แล้วจะรู้สึกถึงการเปลียนแปลงในทางที่ดีขึ้น

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก หนังสือการดูแลสุขภาพด้วยขิงสูตรหมออิชิฮะระ

———————————————————

สามารถหาซื้อน้ำขิงจินเจนได้แล้วที่ www.gingen.com
#Gingen #จินเจน
#ขิงผงจินเจน #ดื่มน้ำขิงดื่มจินเจน
#ดื่มดีมีประโยชน์ #ปรุงอาหารก็อร่อย